วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ แวะกินเทมปุระแสนอร่อย


เดินดุ่มๆๆ ไปตามป้ายบอกทางค่ะ ในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาบนดินกันแล้ว... เราเดินตรงไปตามแผนที่ที่ถืออยู่ในมือ
ตรงไหด้านหน้าวัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เราพึมพำกับตัวเอง
ก่อนถึงวัดมีร้านขายเทมปุระเก่าแก่ด้วยอะยุ่ง หาอะไรกินกันก่อนดีปะ เราถาม
อืม หาอะไรกินก่อนก็ได้ แล้วค่อยว่ากัน เค้าก็เริ่มๆหิวและเนี่ย โอ๋ตอบพร้อมกับเอามือลูบพุง

เราสองคนเดินตรงไปเรื่อยๆค่ะ บรรยากาศของย่านอาซาคุสะในวันนี้ครึกครื้นกันเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวคงมาเที่ยวชมวันกันเนืองแน่นแน่ๆ  ก่อนถึงด้านหน้าของวัดอาซาคุสะ จะมีรถลากโบราณของญี่ปุ่นคอยเรียกนักท่องเที่ยวให้ใช้บริการค่ะ บางคนก็พูดทักทายเป็นภาษาไทยได้ด้วยนะคะ ว่าแต่...เค้ารู้ได้ยังไงว่าเราเป็นคนไทยนะ สวัสดีครับ เสียงพ่อหนุ่มยุ่นทักทายเราสองคน เราหันไปมองหน้าแล้วยิ้มให้ หันมามองหน้าโอ๋
มันรู้ได้ไงวะ ว่าเราเป็นคนไทย เราถามพร้อมกับทำคิ้วขมวด
หรือว่าเราแต่งตัวบ้านนอกวะที่รัก โอ๋ตอบพร้อมกับหัวเราะ
บ้าน่า เราแต่งตัวธรรมดาที่สุดแล้ว เพราะปกติคนไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นจะชอบจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เราตอบพร้อมกับหัวเราะออกไปบ้าง
เรายืนมองคุณลุงกะคุณป้าท่านนี้นั่งรถลากอย่างมีความสุข แล้วมองแผนที่ในมือตามหาร้านเทมปุระเก่าแก่

อืม... ร้านอยู่ก่อนถึงวัดอาซาคุสะ ตอนนี้เราอยูหน้าวัดแล้วนี่ เอ.. แล้วร้านอยู่ตรงไหนนะ เรายืนเก้ๆกังอยู่ด้านหน้าวัด พร้อมกับมองสอดส่ายสายตาหาร้านเทมปุระ  และแล้วสายตาก็สะดุดอยู่ที่ร้านค้าร้านหนึ่ง ซึ่งภายนอกของร้านนั้นธรรมดามากๆค่ะ มีแต่ตู้ขายเทมปุระที่อยู่หน้าร้าน เท่านั้น...
ยุ่ง สงสัยจะเป็นร้านนั้นแน่ๆเลยนะ เราบอกโอ๋พร้อมกับชี้มือไปทางนั้น
เอาไงอะ โอ๋ถามด้วยความลังเล
คงเป็นร้านนี้แหละ เพราะดูท่าทางเทมปุระน่ากินสุดๆ เราพูดจบก็เดินตรงไปที่ร้านนั้นเทมปุระทันที

เดินมาถึงหน้าร้านคุณน้าท่านนี้ก็กล่าวทักทายพร้อมกับเชื้อเชิญให้เราเดินเข้าไปด้านใน สำหรับคนเก่งภาษาญี่ปุ่นอย่างเรายิ้มทักทายเป็นการตอบรับ อิอิ.... เป็นภาษาที่ใช้ได้ทั่วโลกจริงๆค่ะ เจ้ารอยยิ้มเนี่ย
เดินเข้ามาด้านในร้านคุณป้าท่านหนึ่งทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่รู้ว่าแกพูดอะไรบ้างแต่เห็นแกผายมือเชื้อเชิญให้เราเดินขึ้นไปชั้นสองค่ะ เราเดินตามคุณป้าขึ้นไปด้านบน ด้านบนของร้านมีโต๊ะที่นั่งได้ประมาณ 4 คนอยู่ 8 โต๊ะค่ะ บรรยากาศภายในร้านเรียบง่าย โต๊ะกินข้าวมีลักษณะเป็นโต๊ะไม้ธรรมดา ส่วนเก้าอี้ก็มีเพียงเบาะสีน้ำเงินรองไว้ให้ลูกค้ารู้สึกสบายเวลานั่งเท่านั้น เราเลือกที่จะนั่งโต๊ะติดกระจก เพื่อมองดูบรรยากาศด้านนอกร้าน... คุณป้าเดินไปหยิบเมนูมาให้เรา ซึ่งเมนูที่แกนำมาวางให้นั้นเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แสดงว่าแกจับทางเราสองคนได้ว่าไม่ใช่คนญี่ปุ่นแน่นอน (อร๊ายยยย...อุตส่าหจะแอ๊บซักหน่อย...)เราเปิดเมนูดูชื่ออาหารแล้วนึกภาพตัวหนังสือ เพราะเมนูที่แกส่งมาให้นั้นไม่มีรูปภาพให้ดูค่ะ อาหารที่ราคาก็ไม่ถูกนะคะ แต่ก็ไม่ได้แพง เรามองเมนูแล้วปรึกษากันเล็กน้อยว่าใครจะทานอะไร หลังจากนั้นใช้ภาษาสากลล่ะค่ะ ชี้ลงไปที่เมนูอย่างเดียวว่าเราต้องการเมนูนี้ คุณป้ารับเมนูกลับพร้อมส่งยิ้มมาฟอดใหญ่ๆ
คุณป้าคนเดิมเดินถือกาน้ำชามาให้เราสองคน ซึ่งภายในบรรจุชาเขียวร้อนกลิ่นหอมกรุ่นไว้ด้านใน
อื้ม กลิ่นหอมดีจัง เราเปรยขึ้นมาหลังจากที่กลิ่นหอมของชาเขียวแตะจมูก พลันเอื้อมมือไปจับหูกาน้ำชาเพื่อยกให้น้ำรินออกมา
โหยย  ควันลอยเลยอะ เรายังพร่ำเรื่อยๆ
ยุ่ง ค่อยๆจิบล่ะ ท่าทางจะร้อนน่าดู โอ๋หยิบแก้วชาขึ้นไปจิบพร้อมกับบอกว่า รสชาดชาหอมและเข้มมากๆ เรารินน้ำชาลงในถ้วยด้านหน้าพร้อมกับจิบชาร้อนๆลงคอ
อืม.. ขนาดกลืนลงไปในคอแล้วนะ ยังมีกลิ่นหอมอยู่ในปากอยู่เลย เราพูดพลางยิ้มให้กับโอ๋
อร่อยเนอะ เราสองคนพูดพร้อมกัน
นั่งจิบชาร้อนๆพร้อมกับนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย มองออกไปนอกหน้าต่างบ้างถ่ายรูปเล่นบ้าง ในที่สุดเมนูธรรมดาที่ความอร่อยไม่ธรรมดาก็ปรากฎกายอยู่เบื้องหน้าเราสองคนแล้วค่ะ เมนูนี้เป็นของโอ๋ โอ๋ไม่กินข้าวเลยสั่งเทมปุระเซ็ทธรรมดามากิน ซึ่งเซ็ทนี้ประกอบไปด้วยกุ้งจำนวนสองตัวและที่เห็นแผ่นๆนั่นคือเนื้อปลาหมีกล้วนๆค่ะ  แป้งเทมปุระของที่นี่ทอดเหลืองกรอบได้ที่ ไม่อมน้ำมันเลย เราเอามือไปแตะเทมปุระ และต้องรีบดึงมือกลับขึ้นมาเนื่องจากเทมปุระยังคงคุกรุ่นไปด้วยความร้อนนั่นเอง
ทอดกันสดๆแบบนี้นี่เอง มิน่ากลิ่นหอมสุดๆเลย เราพูดพร้อมกับทำท่าสูดกลิ่นหอมๆของเทมปุระที่ช่างยั่วยวนใจสุดๆ
อันนี้ของแม่หมูนะ ห้ามยุ่ง โอ๋รีบปราม
เอ๋า ก็แลกกันกินดิ เราพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เต็มที่
เทมปุระเซ็ทนี้ประกอบไปด้วยของทอด น้ำซุปเทมปุระ และอีกอย่างหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นขิงดองหรืออะไรค่ะ (ดันจำไม่ได้ซะนี่ ><”)  โอ๋ก็หน้าระรื่นอย่างที่เห็นค่ะ

มีเรื่องเล่านิดหน่อยค่ะ ระหว่างที่เรานั่งอยู่ในร้านนั้นก็มีนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มนึงเข้ามานั่นกินข้าวเช่นกัน และคนได้ยินเราสองคนพูดสำเนียงไทยเฉกเช่นเดียวกับที่เราได้ยินเขาพูด เมื่อภาษาแผ่นดินแม่กระทบเข้ารูหู เป็นธรรมดาค่ะที่เราต้องเงยหน้าขึ้นมาดูว่าคนที่มาจากแผ่นดินเกิดเหมือนกันนั้นอยู่ส่วนไหน ตรงไหนของร้าน ... เราเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กับกลุ่มคนไทย แต่เชื่อมั๊ยคะ สิ่งที่ได้รับมานั้นคือสายตาว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มส่งกลับมา.... เหมือนถูกตบเข้าที่หน้าอย่างแรง เราหันกลับมามองหน้าโอ๋แล้วพูดว่า คนกลุ่มนั้นเป็นคนไทย แต่กลับทำตัวเหมือนกับว่าเขาไม่ใช่คนไทยอย่างนั้นแหละ โอ๋หันไปมองบ้าง
มีอะไรที่รัก น้ำเสียงของโอ๋เริ่มสนใจกับเรื่องราวครั้งนี้แล้ว
ก็เค้ายิ้มให้แต่มันทำหน้าเฉยเลยอะ เราเริ่มของขึ้นอีกครั้ง
ช่างเค้าเถอะ อย่าไปยุ่งเลย ก็เค้าจัดเสื้อผ้าหน้าผมมาซะขนาดนั้น แล้วดูเราล่ะ ปอนๆกันจะตาย เขาก็คงไม่อยากทักละมั้ง โอ๋ปลอบ
เฮ๊ย ต้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ มาเที่ยวไม่ได้มาเดินแฟชั่นนะโว๊ย เราเริ่มของขึ้นมาเป็นระยะๆ
ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมากถึงมากที่สุดที่เจอคนไทยในต่างบ้านต่างเมือง แต่เขาทำเหมือนไม่ใช่คนแผ่นดินเดียวกัน ความเฉยชาที่มอบให้มานั้นมันทำให้ความรู้สึกแย่จริงๆค่ะ แต่ก่อนที่ความรู้สึกจะแย่ไปมากกว่านี้ ข้าวหน้าเทมปุระก็ถูกเสริฟ์อยู่บนโต๊ะแล้ว
ว้าววววว วว  ของเค้าน่ากินกว่าของยุ่งอีก เราตาโตเมื่อเห็นข้าววางอยู่บนโต๊ะ กลิ่นหอมของน้ำซอสผสมกับกลิ่นหอมของเทมปุระ ดับความโกรธของเราซะเกลี้ยงเลย ... ^__^  เราค่อยๆบรรจงงัดข้าวที่อยู่ด้านล่างของเทมปุระขึ้นมาชิม
"อื้ม ข้าวเม็ดโตเหนียวหนึบเลย"  เราบอกโอ๋พร้อมกับส่งยิ้มให้ "น้ำซอสก็ไม่หวานและไม่เค็มเกินไปอะ โหย อร่อยสุดยอดจริงๆ"
"เว่อร์ละที่รัก" โอ๋ดักคอเราดังป๊าบ
"ไม่เชื่อลองกินดูมั๊ย แล้วอย่ามาขอเค้ากินข้าวนะ ตัวเองไม่ยอมสั่งเซ็ตแบบข้าวเองอะ" เราค้อนโอ๋ทันควัน

เซ็ตนี้ประกอบไปด้วยกุ้งทอด ปลาหมึกทอด ปลาทอด และมะเืืขือม่วงทอด มะเขือม่วงของที่ี่นี่รสชาดดี หวานกรอบมาก ข้าวราสน้ำซอสจนชุ่มแต่ข้าวไม่แฉะนะคะ ประมาณว่าอุ้มน้ำซอสไว้เต็มที่ เวลาที่เราตักข้าวเข้าไปในปากมันจะมีรสชาดของน้ำซอสติดข้าวอยู่ ทำให้รสสัมผัสของอาหารนั้นมีรสชาดที่ดีเลยทีเดียว
กินข้าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรานำใบเสร็จมาชำระเงินด้านล่าง หลังจากนั้นจึงอำลาร้านเทมปุระแสนอร่อยร้านนี้มุ่งหน้าไปยังวัดอาซาคุสะกันต่อไป ใครที่เดินทางมาเที่ยววัดอาซาคุสะ อย่าลืมแวะมาทานเทมปุระที่ร้านนี้นะคะ รับรองความอร่อย 100 คะแนนเต็มเลยค่ะ 
ในรีวิวหน้าเราจะเดินทางไปพบกับโคมยักษ์ที่วัดอาซาคุสะกันจ้า...โปรดติดตาม

1 ความคิดเห็น: