++ Japan Trip ++ เดินทางไปวัดอาซาคุสะ

เมื่อคืนหลังจากที่กินเนื้อย่างเสร็จ นึกว่าจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน ที่ไหนได้คุณแม่ตัวดีของโอ๋ ชวนไปร้านอาหารของคนไทยที่อยู่ย่านคามาตะค่ะ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบ 5 ทุ่มแล้ว ทำให้วันนี้เราตื่นสายเล็กน้อยค่ะ

7 โมงครึ่งเสียงนาฬิกาข้อมือปลุกให้เราตื่นจากภวังค์ อากาศหนาวแฮะเราดึงผ้าห่มออกจากตัว เสียงป้าอ๊อดดังเข้ามาทักทาย

“ตื่นแล้วเหรอลูก ไม่นอนให้เต็มอิ่มล่ะ เมื่อวานท่าทางจะเหนื่อยกันน่าดู”

“หวัดดีค่ะป้าอ๊อด” เรายิ้มให้ป้าอ๊อด แล้วหันไปมองโอ๋ซึ่งนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่ม

“อากาศหนาวจังค่ะป้าอ๊อด”

“ฝนตกน่ะ ตกแต่เช้าละ ปรอยๆยังไม่หยุดเลย” ป้าอ๊อดตอบ เราแง้มผ้าม่านบนหัวนอน พบว่าปรอยลงมาทำเอาพื้นถนนฉ่ำไปด้วยสายฝน หลังจากนั้นเอื้อมมือไปสะกิดโอ๋ให้ตื่น โอ๋งัวเงียเล็กน้อยไม่ยอมตื่นซักที

“แล้วนี่แม่กะฮีโร่ออกไปทำงานแล้วเหรอคะป้าอ๊อด” เราถาม เพราะเห็นบ้านเงียบผิดปกติ

“ออกไปตั้งแต่ 6 โมงแล้วมั้งลูก แล้ววันนี้จะไปไหนกันล่ะ” ป้าอ๊อดถาม

“ว่าจะออกไปวัดอาซะคุสะค่ะ แต่ไม่รู้ว่าฝนจะหยุดตอนไหน” เราเริ่มกังวลฝนซะแล้ว

“มันเป็นแบบนี้แหละลูก ตกๆหยุดๆ ไม่ต้องกังวลหรอกมันตกไม่นานเดี๋ยวก็หยุด” ป้าอ๊อดปลอบเพราะจับน้ำเสียงความกังวลของเราได้

“ไปล้างหน้าล้างตาก่อนลูกเดี๋ยวค่อยว่ากัน วันนี้ป้าอ๊อดคงไม่ได้ไปด้วยนะ ป้าอ๊อดต้องกลับบ้านก่อน”

“อ่อค่ะ แต่ป้าอ๊อดไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพราะว่ารุ่งเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว” เราแจ้งป้าอ๊อดด้วยใบหน้าระรื่น

ล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็มาขุดโอ๋ออกจากที่นอนค่ะ ... รายนั้นกว่าจะขุดออกมาได้ต้องใช้ไม้เด็ดหลายร้อยกระบวนท่าเลยทีเดียว  

“ตื่นได้แล้ว มาญี่ปุ่นแล้วมาขี้เซาแบบนี้ไม่เวิร์คเลยว่ะ” เราเริ่มบ่น

“บ่นจังไอ่หมู ตื่นก็ได้” พูดจบโอ๋ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากผ้าห่ม เราเลยรีบเสริมต่อ

“จะ 8 โมงครึ่งละ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วจะไปไหนได้เนี่ย งั้นเดี๋ยวเค้าออกไปถ่ายรูปวัดข้างๆบ้านก่อนนะ” ว่าแล้วก็คว้ากล้อง sony Nex 5n ออกไปพร้อมเลนส์ 16mm 2.8

“หวังว่ากลับมาแล้วจะเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างนะ เกรงใจป้าอ๊อดเค้าบ้าง” เรายังบ่นไม่หยุด แต่หลังจากนั้นโอ๋จะพูดอะไรก็แล้วแต่ล่ะค่ะ ออกจากบ้านมาแล้วยังไงก็ไม่ได้ยินแน่นอน

ออกจากบ้านเดินมาเส้นทางเดิมที่ไปคาวาซากิค่ะ พอเจอเสาวัดก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปด้านในเลยค่ะ  ระยะทางจากปากซอยจนถึงตัววัดประมาณ 150 เมตร สองข้างทางเป็นบ้านเรือนของผู้คนที่นี่ เราเดินผ่านเข้ามาถึงตัววัดด้านใน ด้านข้างของวัดเป็น รร. เด็กอนุบาลค่ะ มีเด็กๆวิ่งเล่นอยู่เต็มไปหมด น่ารักมากๆเลย เสียดายไม่มีช่วง telezoom ไม่งั้นได้แอบถ่ายรูปน้องๆมาให้ดูกันแล้วล่ะ หลังจากยืนดูเด็กๆก็ออกสำรวจรอบๆวัดค่ะ วัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กๆ น่าจะเป็นวัดของชุมชนแถบนี้ เราเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนได้เวลาที่จะต้องกลับเข้าบ้านแล้วค่ะ 

 ……………………………………………………………………………………………….

เราออกจากบ้านประมาณ 10 โมงเช้า เดินออกไปนั่งรถไฟขบวนเมื่อวานแต่เปลี่ยนสถานนีปลายทางจากคาวาซากิเป็นสถานีชินากาว่า เพื่อต่อรถไปยังสถานีอุเอโนะ วันนี้ฟ้าครึ้มสุดๆค่ะ แต่เราตั้งใจทำตามแผนเดิม เราตั้งเป้ากันไว้ว่าเราจะไปเดินเล่นที่สวนอุเอโนะกันก่อน หลังจากนั้นค่อยไปที่อาซาคุสะและกลับมาเดินเล่นชิวๆที่คามาตะกันอีกครั้ง  ขณะที่สองเท้าก้าวเดินมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟมุ่งหน้าไปยังคาวาซากิ ฝนก็ยังคงโปรยปรายลงมาตลอดทาง หวังว่าเมื่อไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้แล้ว ฝนคงจะจางหายไปบ้าง

ถึงสถานีชินากาว่า เราเปลี่ยนสาย local มาเป็นสาย yamanote ซึ่งเจ้าสายนี้จะวิ่งวนเป็นวงกลมทั่วโตเกียวค่ะ เท่ากับว่านั่งเจ้า yamanote แค่สายเดียวก็ได้เที่ยวโตเกียวเกือบทั่วแล้ว... มี trickอีกเล็กน้อยในการนั่งรถไฟเที่ยวโตเกียวค่ะ หากเป็นไปได้โปรกเลี่ยงการใช้บริการของรถไฟในช่วงเวลา 7-8.30 น. มิฉะนั้นเราอาจจะโดนอัดเป็นปลากระป๋องได้ เพราะช่วงเวลานั้นเป็นเวลาเดินทางไปทำงานของคนญี่ปุ่นค่ะ ดังนั้นวันนี้เราสองคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงเวลาในช่วงนั้นเพื่อป้องกันตัวเองจากการเบียดเสียดของผู้คนในขบวนรถไฟ และนี่ก็คือหน้าตาของเจ้ารถไฟสาย yamanote ค่ะ 

 เรายืนรถไฟประมาณ 3 นาทีรถไฟก็จอดเทียบชานชลา

“เป็นไปตามโปรแกรมที่วางไว้เป๊ะ” เราพึมพำกับตัวเอง

รถไฟของญี่ปุ่นตรงเวลามากๆค่ะ เราทำชาร์ตตารางเวลารถไฟมาจาก www.hyperdia.com  ซึ่งเจ้าเว็บนี้มีประโยชน์มากๆในการวางแผนการเดินทางในญี่ปุ่น ใครที่มีโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อย่าลืมใช้ค่ะ เจ้าตัวนี้ช่วยเราจัดการวางแผนเรื่องเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกะเวลาได้ว่าเราสามารถจะท่องเที่ยวได้นานเท่าไหร่ จะมีรถไฟขบวนไหนเดินทางมาถึช่วงใดบ้าง

เราสองคนนั่งสาย yamanote มุ่งหน้าไปสถานี Ueno ระหว่าที่อยู่บนรถไฟ เราสองคนก็กวาดตามมองผู้คนในขบวนไปเรื่อยๆค่ะ คนญี่ปุ่นไม่ค่อยคุยกันในรถไฟเลย บ้างก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ บ้างก็ฟังเพลง บ้างก็เล่นเกมส์ เราสองคนมองหน้ากันแล้วทำหน้างงใส่กันเล็กน้อย อิอิ ... อีกอย่างนึงที่ประทับใจสุดๆค่ะ คนที่นี่ไม่มีใครแย่งที่นั่งกันเลยค่ะ ไม่ว่าที่นั่งจะว่างซักแค่ไหน ไม่เหมือนบ้านเราอีกล่ะค่ะ เห็นที่นั่งว่างๆเป็นไม่ได้ต้องแย่งกันนั่งประหนึ่งว่าใครมาก่อนได้ก่อน แต่ที่นี่มันเป็นระเบียบแม้กระทั่งที่นั่งเลยค่ะ...

20 นาทีผ่านไปโดยประมาณ ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีอุเอโนะกันค่ะ แต่เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้นอีกจนได้ เราเปลี่ยนแผนกระทันหัน เนื่องจากอยากลองของ

“ยุ่ง เค้าว่าเราลองนั่งสาย ginza ไปอาซาคุสะกันดีมั๊ย” เราถามโอ๋ แต่โอ๋มองหน้าด้วยความงง

“อะไรอีกล่ะ เค้ายังไงก็ได้ตามใจที่รักละกัน” โอ๋ปัดให้การตัดสินใจทั้งหมดกับมาที่เราอย่างที่เลี่ยงไม่ได้

“งั้นก็ตามนั้นเนอะ เราไปวัดก่อนแล้วค่อยกลับมาที่อุเนโนะช่วงบ่ายๆละกัน จะได้ไปตามหาร้านเทมปุระดั้งเดิมด้วย” เราบอกพร้อมกับมองหาป้ายของ ginza line

“อ๊ะ อยู่นั่นเอง เดินตามไปป้ายไปอย่างเดียวไม่น่าจะหลง” เราบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้โอ๋

 หลังจากนี้เราสองคนเดินเข้าเดินออกมุดเข้ามุดออกจนในที่สุดเราก็มาถึงสถานที ueno สำหรับสาย ginza line คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ โอ๋คงหิวน้ำเห็นเดินไปแปะ passmo ซื้อน้ำมา 1 ขวด อ้อ...ขอพูดเรื่องแพคเกจจิ้งของขวดน้ำที่นี่หน่อยนะคะ แบบว่าน่ารักมากๆ ขวดเล็กพอดีมือ สำหรับพกพาไปมาไม่หนักค่ะ สังเกตุจากเจ้าขวดเล็กๆที่อยู่ในมือโอ๋นะคะ พกพาสะดวกจริงๆ แต่สำหรับเราแล้วขวดเดียวดื่มแล้วทิ้งได้เลยค่ะ ก็มันขวดเล็กกระจึ๋งนึงเองนะ

ยืนรอรถไฟสาย ginza ไม่นาน ในที่สุดเจ้าขบวนนี้ก็เดินทางมาถึง เราสองขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสถานที asakusa ซึ่งเป็นสายของ subway อะ...มาถึงตอนนี้อย่าพึ่งงงนะคะ อย่างที่กล่าวไปแล้วค่ะ เจ้ารถไฟที่ญี่ปุ่นเขามีแบบลอยฟ้า นั่นหมายถึง JR ส่วน SUBWAY จะเป็๋นรถไฟแบบมุดดินค่ะ เรื่องรถไฟในญี่ปุ่นต้องอ่านกระทู้ในพันทิปเยอะๆและดูแผนที่แสดงสายรถไฟของ JR และ Subway ให้ดีๆค่ะ ตอนแรกที่เห็นแผนที่ของรถไฟทั้งสองสายแบบว่างงสุดๆเช่นกัน แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนักในการทำความเข้าใจ 

 ในเวลาเดินทางประมาณ 3 นาทีจาก ginza ที่สถานที Ueno มายังสถานที Asakusa เมื่อเดินทางมาถึงแล้วมองหาป้ายทางออกที่มุ่งหน้าไปยัง sensoji และ kaminarimon ทันที ซึ่งประตูทางออกนี้จะนำพาเราไปยังวัดอาซาคุสะ วัดที่คนไทยอย่างเราๆท่านๆชอบไปกันนักหนาค่ะ 

ในรีวิวหน้าอย่าลืมติดตามชม การท่องเที่ยวในวัดอาซาคุสะนะคะ ^_^

ปล.ขอบคุณเจ้าของภาพรถไฟสาย yamanote และ แผนที่วงกลมของ yamanote มากๆค่ะ