วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ ได้เวลานั่งเคเบิลคาร์กลับโตเกียว

กลับมารีวิวต่อกันเลยนะค หลังจากที่เราได้เดินลงมาจากตัววัดแล้ว ทีนี้ก็มาแวะซื้อของฝากกันตรงจุดที่เราเดินผ่านตอนเช้าค่ะ ตรงจุดนี้จะีมีของมากมายหลายชนิดให้เราเลือกซื้อเลือกหาติดมือลงไปด้านล่าง สินค้าทุกชนิดมีป้ายราคาติดชัดเจน ไม่ว่าคนญี่ปุ่นหรือคนต่างชาติรับรองได้ว่า ได้ของราคาเดียวกันแน่นอน 
ได้ของเป็นที่ถูกใจกันเรียบร้อยแล้ว เราทั้งสี่คนเดินมุ่งหน้าไปยังจุดนั่งเคเบิลคาร์เพื่อลงไปด้านล่างนะคะ จะเห็นว่าใบไม้เริ่มมีสีแปลกจากสีเขียวบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงกะเปลี่ยนสี ใครทีอยากมาเห็นใบไม้เปลี่ยนสีแนะนะมาช่วงประมาณกลางเดือน พย เป็นต้นไปเลยค่ะ รับรองได้เห็นเแน่ๆ ส่วนเราสองคนเลือกมาช่วงเดือน ตค เนื่องจากมีัวันหยุดด้วย เลยต้องมาเสี่ยงดวงกับใบไม้เปลี่ยนสี สุดท้ายไม่ได้เห็นค่ะ ปีหน้าจะมาอีกที 
"ยุ่ง ดูใบไม้ดิ ยังไม่เปลี่ยนสีเลย ถ้าเรามาช้ากว่านี้อีกนิดเราคงได้เจอแล้วล่ะ" เราพูดพร้อมกับชี้ไปที่ต้นไม้ด้านหน้า
"แต่มาช่วงนี้ก็ดีนะ เราได้ลางานแค่ 3 วันเอง ขืนมาช่วงอื่นมีหวังอดแน่ๆ" 
"เออ ก็จริงนะ กว่าจะลางานได้แทบแย่ อยากลางานแบบคนอื่นเค้าจริงๆเลย อยาได้ซัก 7-10 วันเลยอะ" เรายิ้ม
"พอกลับไปก็มีซองขาววางบนโต๊ะช่ายมะ" โอ๋หันมามองหน้า
"ก็คงงั้นแหละ" เอิ๊ก.... พนักงานออฟฟิศช่างลางานได้ยากเย็นเหลือเกิน ให้ตายเหอะ 
เดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ จะมีจุดชมวิวของเมืองอยู่ด้านขวามือ เราสี่คนแวะชมวิวกันเล็กน้อย ก่อนจะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ ขอบอกว่าวิวสวยจริงๆ นึกถึงวิวของเมืองเชียงใหม่ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพกันเลยทีเดียว มุมคล้ายๆประมาณนั้นเลยค่ะ 
เมื่อเดินไปถึงจุดขึ้นเคเบิลคาร์ ฮีโร่ซังมอบตั๋วให้เราสองคนพร้อมกำชับว่าให้ระวังเวลานั่งเคเบิลคาร์ให้ดีๆ เพราะเคเบิลคาร์จะวนไปตามลำดับ ซึ่งในจุดปล่อยตัวนี้เราต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายในการกระเด้งตัวขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ .... แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ ซึ่งหากดูอย่างผิดเิผินเหมือนยากค่ะ เอาเข้าจริงๆง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก เพราะเวลาที่เคเบิลคาร์วนมา ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเราที่จุดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่คอยจับถ่วงเก้าอี้นั่งให้อยู่ในระดับที่เรายืนด้วย ทำให้การนั่งของนักท่องเที่ยวปลอดภัยมายิ่งขึ้น 

ในที่สุดเราสองคนก็กระเด้งตูดขึ้นมานั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนแม่กะฮีโร่ซังล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ดูแม่จะเป็นห่วงเราสองคนมากค่ะ หันมามองตลอดเลย ส่วนฮีโร่ซังก็ถ่ายภาพไว้ตลอดเช่นกัน 
ระยะเวลาในการนั่งเคเบิลคาร์ประมาณ 30 นาทีนะคะ เรื่องเวลาจำได้ไม่แน่ชัดค่ะ เพราะัมัวแต่ดูทิวทัศน์สองข้างทางตลอด 
"เป็นไงบ้างยุ่ง หายกลัวหรือยัง" เราถามโอ๋เนื่องจากโอ๋เกาะแขนแน่นมาก ทำให้การถ่ายรูปไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
"กลัวอะ" โอ๋ตอบ
"จะกลัวอะไรเล๊า เค้ายังไม่กลัวเลย มันไม่หล่นลงไปข้างล่างหรอกน่าเชื่อเค้า" เรามองโอ๋ด้วยแววตาอ่อนโยน  โอ๋เริ่มคลายความกังวลได้บ้างแล้ว จึงหันมายิ้มสู้กล้องด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม 
เคเบิลคาร์ของทีนี่ความปลอดภัยสูงมากๆค่ะ ระหว่างทางที่เรานั่งลงไปก็จะมีคนที่นั่งกระเช้าขึ้นไปด้านบนเหมือนกัน 
ที่เห็นหลังคาสีขาวด้านหน้าเป็นสถานีปลายทางค่ะ อีกไม่กี่อึดใจเราก็จะสิ้นสุดการเดินทางแล้วนะคะ ก่อนขึ้นกระเช้าแม่ได้บอกแล้วว่าจะมีเจ้าหน้าที่บริการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้เราด้วย ซึ่งพอใกล้จะถึงก็มีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายรูปให้อย่างที่แม่บอกนะคะ เราสองคนทำตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง แล้วฉีกยิ้มรับกล้องถ่ายรูปที่ทำหน้าที่บันทึกภาพอย่างมีความสุข

เดินลงมาจากสถานีจะมีจุดขายภาพอยู่ค่ะ เจ้าหน้าที่จะโชว์ภาพให้เราดจากคอมพิวเตอร์ หากเราพอใจก็สามารถสั่งอัดได้เลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณใบละ 700 เยนค่ะ ราคานี้จำไม่แม่นนะคะ หากราคาผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วยจ้า เรารับรูปจากแม่พร้อมแกะดูกันด้วยอาการลิงโลด รูปสวยทีเดียวค่ะ คุ้มๆๆๆ 
เดินลงมาถึงด้านล่างก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันซักหน่อยนะคะ ไม่แน่ใจว่าคนญี่ปุ่นเรียกว่าอะไร แต่เท่าที่สังเกตเห็น ใครลงมาก็เป็นต้องถ่ายล่ะค่ะ 
ใครที่พลาดซื้อของฝากจากข้างบนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรติดมือลงมาค่ะ ด้านล่างก็ยังคงมีร้านขายของฝากอยู่เพียบเลย หากจำตอนที่เรานั่งกินโซบะได้ ก็จะเห็นว่าด้านซ้ายของร้านโซบะมีร้านขายของฝากอยู่เยอะทีเดียวค่ะ ดังนั้นหากลืมซื้อจากด้านบนก็สามารถลงมาหาซื้อที่ด้านล่างได้นะคะ 
ระหว่างทางที่เดินกลับไปที่สถานีรถไฟเื่พื่อมุ่้งหน้ากลับโตเกียว สองข้างทางก็จะมีร้านขายขนมอยู่เพียบเช่นเคย โอ๋ออกอาการอยากกินขนมเซ็มเบ้ จัดแจงเดินไปซื้อขนมกินเองซึ่งในตอนแรกก็ออกอาการเหวี่ยงเล็กน้อย เพราะไม่อยากเดินไปซื้อเอง แต่... เราเองก็ไม่ยอมตามใจเหมือนกันค่ะ ซื้อขนมง่ายๆเอง ต้องใจแข็งไม่ยอมไปซื้อให้ แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ทำได้นะเรา เอิ๊ก เอิ๊ก...
อากาศที่นี่ดีมากๆ เราเดินกันมาค่อนข้างไกลค่ะ แต่ด้วยความที่สองข้างทางมันมีอะไรน่าสนใจกว่าความเหน็ดเราจึงเดินกันเพลิน เราหยุดถ่ายรูปแม่น้ำสายเล็กแห่งนี้ ก่อนจะมองออกไปอีกฟากฝั่งของถนนซึ่งก็คือบ้านเรือนของผู้คนที่นี่ ... ทำไมสายน้ำของคนที่นี่ไม่มีน้ำเน่า ไม่ขยะแม้แต่ชิ้นเดียวนะ ... ถ้าเป็นที่เมืองไทยอยู่ใกล้แม่น้ำขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงค่ะ นี่แหละค่ะความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น ชอบมากๆ 
ใบไม้กำลังเตรียมตัวจะเปลี่ยนสี โอย..... น่าเสียดายจริงๆ 
เดินตามถนนมาเรื่อยๆก็มาถึงสถานีรถไฟแ้ล้วค่ะ ได้เวลาที่เราจะต้องกลับไปยังโตเกียวกันแล้ว เราทั้ง คนขึ้นมารอรถไฟด้านบน ประมาณ  10 นาทีรถไฟก็เดินทางมาถึงค่ะ 
เราใช้เวลาเดินทางกลัีบไปโตเีกียวประมาณ 2 ชั่วโมงเหมือนเดิมค่ะ งานนี้โชคดีที่เราได้นั่งตั้งแต่ต้นสาย ไม่อย่างนั้นคงต้องยืนขาแข็งแน่ๆเลย  ถึงโตเกียวแล้วฮีโร่ซังเตรียมเซอร์ไพรส์ด้วยการพาไปนั่งเรือชมบรรยากาศของโตเกียวยามเย็นค่ะ เดี๋ยวเจอกันในรีวิวหน้านะคะ
ปิดท้ายด้วยรูปถ่ายนั่งกระเช้าที่ทาคาโอะซังค่ะ อิอิ แอบหวานเล็กน้อย