วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ Food Show เดินเที่ยวย่าน SHIBUYA


เมื่อคืนฝนตกพรำๆตลอดเลยค่ะ อากาศในห้องค่อนข้างหนาว  เราลืมตาขึ้นมามองนาฬิกาข้อมือที่วางอยู่ข้างตัว อืม... 7 โมงครึ่งแล้วเหรอเนี่ย เราเอื้อมมือไปกอดโอ๋พร้อมกับกระซิบเบาๆที่ข้างหู
ยุ่ง ตื่นได้แล้วนะ สายแล้ว โอ๋พลิกตัวหันมากอดตอบ
เค้ายังไม่อยากตื่นเลยที่รัก หนาวอะ โอ๋พูดพลางขยับตัวเข้ามาในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
ตื่นได้แล้ววันนี้มันนัดไปฮาโกเน่กันนะ
เราดึงผ้าห่มออกจากตัวเล็กน้อยก่อนเดินออกไปแง้มหน้าต่างดูบรรยากาศข้างนอก ฝนยังคงโปรยปรายลงมาข้างล่างอย่างไม่ขาดสาย เราเดินมานั่งข้างโอ๋พร้อมกับแจ้งข่าวร้าย
ฮาโกเน่ คงไม่ได้ไปแล้วล่ะ ฝนตก...สงสัยงานนี้จะได้เปลี่ยนแผนอีกแล้ว
ไม่เป็นไรที่รัก วันนี้เราก็ไปที่อื่นได้นะ โอ๋พูดทั้งๆที่ยังหลับตา
อืม..งั้นวันนี้เปลี่ยนแผนละกัน ว่าแต่ตอนนี้ตื่นได้แล้วนะ เดี๋ยวเค้าไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง แม่เดินเข้ามาในห้อง
เมื่อคืนหนาวมั๊ย แม่ถาม
ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ค่ะแม่ อากาศเย็นสบายดีชอบมากๆเลย เราตอบแม่
แต่หนูหนาวจะแย่อยู่แล้ว พี่รุ่งเค้าชอบอากาศเย็นๆ แต่หนูจะหนาวตาย โอ๋ฟ้องแม่เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่เรียกร้องความสนใจ
แล้วเรายังไม่ตื่นเหรอคุณโอ๋
โห แม่อะ..หนูก็กำลังจะตื่นอยู่นี่ไง บ่นหนูอีกละ
นั่นล่ะค่ะ แม่ลูกคู่นี้ อยู่ใกล้กันทีไรเป็นนี้ทุกทีเลย เอาเป็นว่าขอตัวไปล้างหน้าแปรงฟัน ชำระล้างร่างกาย และปลดปล่อยของเก่าออกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวไปเจอกันด้านล่างค่ะ

เดินลงมาชั้นล่างแม่เรียกให้เข้าไปในครัว
"รุ่ง มาดูสิว่าจะกินบะหมี่แบบไหน" เสียงแม่ดังมาจากในครัว เราเดินตามเสียงเข้าไปหาแม่ด้านใน
"อันไหนก็ได้ค่ะแม่" 
"อู๊ยยยยยยย มาดูเอาเลย อยากกินอะไรก็หยิบไป แล้วเอาไปให้ไอ้โอ๋อันนึงด้วยนะ" แม่บอก

อาหารเช้าของเราวันนี้เป็นบะหมี่ญี่ปุ่นคนละ 1 กล่อง นมคนละ 1 แก้ว มีชีสเค๊กของโอ๋วางอยู่ด้วยค่ะ และแม่ปลอกผลไม้ให้เรากินอีก 2 จาน เป็นอาหารเช้ามื้อแรกที่สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้ดีเลยทีเดียว ^__^ ขอตัวทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวออกไปเที่ยวข้างนอกกันจ้า 

ฝนเริ่มซาแล้ว เราสองคนเริ่มขึ้นไปแต่งตัวบนห้อง ประมาณ 10 โมงกว่าๆ แม่เดินเข้ามาในห้องพร้อมแต่งกายครบชุด เราสองคนมองหน้ากัน "แม่จะไปกะเราด้วยเหรอเนี่ย" แค่มองตาก็อ่านใจกันออก แม่เหมือนจะรู้ทันเลยชิงพูดว่า "แม่จะไปที่คามาตะ ไปเที่ยวเล่นปาจิงโกะนิดหน่อย" 
"แหม หนูยังไม่ได้ว่าอะไรแม่เลยนะ" โอ๋กลบเกลื่อนสายตาของเราที่แม่เริ่มจับทางได้
"นี่ แม่โอ๋...แม่ไม่ไปด้วยหรอกน่า ว่าแต่เราสองคนไปกันเองได้หรือป่าวล่ะ" 
"เมื่อวานพวกหนูก็ไปกันเองมาแล้วนะ แม่จะห่วงอะไรหนูอีก ที่สำคัญไปกะพี่รุ่งไม่มีหลงอยู่แล้ว รายนั้นเค้าศึกษาข้อมูลมาอย่างดี" โอ๋เริ่มแสดงความภูมิใจในตัวเราออกมาให้แม่เห็น
"ใช่ค่ะแม่ โอ๋ดีแต่ใช้รุ่งอย่างเดียวเลย ตัวเองไม่เคยยอมอ่านข้อมูล แบบนี้มันน่าปล่อยให้หลงทางซะให้เข็ด" เราพูดพลางจับหัวโอ๋อย่างเอ็นดู

เราสามคนเดินออกจากบ้านมายังป้ายรถเมล์เพื่อนั่งรถเข้าไปยังคามาตะ ซึ่งเป็๋นสถานีที่เราสองคนจะนั่งรถไฟเข้าไปในเมืองกันค่ะ รถเมล์ของที่นี่นั้นน่านั่งมากๆ ขับไม่น่าจะเกิน 60 กม. ต่อ ชั่วโมง พนักงานขับรถสุภาพสุดๆ สวัสดีลูกค้าทุกครั้งที่ขึ้นรถ และขอบคุณลูกค้าทุกครั้งเวลาลงจากรถเช่นกัน 
"ตกลงเราสองคนไปกันเองได้นะ แม่จะได้ไม่ต้องห่วง" แม่ยังคงเป็นห่วงเราสองคนเหมือนเราสองคนเป็นเด็กๆ ^^ 
"ไปได้ค่ะแม่" เราตอบแม่ด้วยความมั่นใจ "แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวรุ่งก็นั่งรถไฟ yamanote ไปเหมือนเดิมค่ะ สายนี้นั่งง่ายไม่หลงแน่นอน" เราย้ำเพื่อให้แม่ได้มั่นใจว่าไม่มีทางหลงแน่นอน  หลังจากที่แยกทางจากแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราสองคนมุ่งหน้าเข้าไปยังด้านในห้างเพื่อไปนั่งรถไฟสาย yamanote ไป shibuya กันค่ะ ยืนรอไม่ถึง 5 นาทีเจ้า yamanote ก็พาเรามุ่งหน้าไปสถานีปลายทางทันที 

ถึงสถานที shibuya แล้วเราเดินออกมายังทางออกหน้าห้าง ตอนแรกงงๆค่ะ ว่าจะไป food show ได้ยังไง เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าเจ้า food show ที่ว่านี้ตั้งอยู่ส่วนไหนของตัวห้าง แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างค่ะ ป้ายด้านหน้าตัวเบ้อเริ่มบอกให้เราทราบว่า food show อยู่ด้านล่างนี่เอง 
"ยุ่ง นั่นไงป้ายบอกทางไป food show" เราสะกิดโอ๋ให้หันมาทางเดียวกัน

เมื่อเจอป้ายบอกทางแบบนี้ความมั่นใจก็กลับมาอีกครั้ง เราเดินไปยัง food show เพื่อเข้าไปดูของกินข้างในว่าจะเยอะขนาดไหน ใครๆก็บอกว่า food show ของกินละลานตามากๆ 
เดินลงมาถึงชั้น 1 ตามที่ป้ายบอกไว้ วินาทีแรกที่ได้เห็น food show ขอบอกว่ามันอลังการมากๆค่ะ ที่นี่ขายตั้งแต่ของสดไปจนถึงอาหารปรุงสำเร็จ ซึ่งเจ้าอาหารปรุงสำเร็จนี่แหละ เป็นอะไรที่สุดยอดๆมากๆ ที่นี่รวมอาหารคาว หวานไว้เก็บทุกอย่าง ตั้งแต่ปลาดิบ ข้าวปั้น ขมมเค้ก โดนัท ช๊อกโกแลต และอื่นๆอีกมากมาย เราสองคนเดินวนมองอาหารที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจกันสุดๆ  แต่ละอย่างก็น่าทานมาก คนญี่ปุ่นละเอียดละออและใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหน เป็นต้องได้เห็นน่าตาที่สวยงาม จนเรียกต่อมน้ำลายของเราให้ทำงานกันอีกรอบ 
"ตกลงเราจะซื้ออะไรไปชิมดี" เราหันหน้ามาถามโอ๋
"อะไรก็ได้อะที่รัก เค้ากินได้หมด" โอ๋ตอบคำถามแบบกำปั้นทุบดิน
"เอ้า.. ตอบแบบนี้อีกละ อยากกินอะไรก็บอกเดะ จะได้ซื้อถูก" เราเริ่มโมโห โอ๋ชอบตอนแบบนี้ทุกครั้ง แต่พอเราเป็นคนตัดสินใจว่าจะกินอะไร โอ๋ก็จะต้องทำหน้างอทุกครั้งเช่นกัน
"ตกลงซื้อข้าวปั้นไปลองกินดูละกันนะ ว่าจะอร่อยและสดหรือป่าว" สิ้นเสียง เราเดินเข้าไปที่ร้านขายข้าวปั้นพร้อมกับหันมาหน้าหาโอ๋ "สั่งดิ"  โอ๋มองหน้าเล็กน้อยแล้วหยิบ ข้าวปั้นหน้าปลาหมึกและหน้ากุ้งไปให้กับคนขาย พร้อมยื่นเงินให้
"แล้วเราจะนั่งกินตรงไหนได้เนี่ย ไม่เห็นที่นี่มีโต๊ะให้นั่งเลยอะ" เรามองหาโต๊ะกินข้าวรอบๆ แต่ไ่ม่มีวี่แววของโต๊ะเลย
"นั่นสิ หรือส่วนใหญ่เค้าซื้อกลับบ้านกันนะที่รัก" โอ๋สันนิษฐานบ้าง
"เอาไงดีหว่า หรือออกไปนั่งกินด้านนอกกันดี" เราชักชวน
"โอเค" โอ๋ตอบรับคำชวนนั้น เราสองคนเดินออกจาก food show เดินลัดเลาะตามเ้ส้นทางไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็โผล่มาด้านบนของย่าน shibuya 

เราหันมามองหน้ากัน "ไม่มีที่นั่งเลยเอาไงดี" โอ๋เริ่มหน้าเสียเล็กน้อย
"นั่งกินข้างฟุตบาทตรงถนนได้มะ มีคนนั่งกันเพียบเลย" เราพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปด้านหน้า
"ที่รักจะนั่งกินตรงนั้นเลยเหรอ" โอ๋มีคำถามตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน
"อืม... กินตรงนั้นแหละ ไม่งั้นจะนั่งตรงไหนล่ะ เค้าว่าไม่น่าจะเป็นอะไรนะ" พูดจบเราดึงมือของโอ๋ไปยังฟุตบาทเริมถนนทันที และตรงนั้นก็เป็นที่ที่เราสองคนนั่งลิ้มรสของข้าวปั้นหน้าปลาหมึกและหน้ากุ้งกันค่ะ 
 กินข้าวปั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรานำกล่องข้าวปั้นไปทิ้งในขยะ หลังจากนั้นออกเดินตะลุยย่าน shibuya กันสองคน ^___^  ย่านนี้คนเยอะน่าดูค่ะ เวลาเดินอย่าได้เผลอมองนั่นมองนี่เชียว ไม่อย่างนั้นชนคนที่กำลังเดินอยู่บนถนนแน่ๆ 

ร้านนี้ขายของหวานน่ากินมากๆ 
เราเดินเที่ยวอยู่ในย่าน shibuya เกือบ 1 ชั่วโมง เที่ยงกว่าแล้วค่ะได้เวลาหาอะไรหม่ำกันอีกแล้ว วันนี้หนีไม่พ้นราเมน... เดินตุปัดตุเป๋ไปเรื่อยๆ มาเจอราเมนร้านนี้ล่ะค่ะ น่ากินสุดๆ... เราเข้าไปใกล้ๆร้านพบว่าร้านนี้เป็นตู้หยอดเหรียญสั่งอาหารค่ะ ตอนแรกก็ไม่กล้าสั่งผ่านตู้เพราะกลัวกดผิด ยืนเก้ๆกังๆอยู่ข้างตู้คอยดูว่าคนอื่นเขาทำอะไรกัน หลังจากเก็บข้อมูลแล้ว ก็จัดการสั่งอาหารผ่านตู้กันเลย วิธีง่ายๆถ้าเราไม่มั่นใจกับการใช้ตู้ ก็นิดเดียวค่ะ รอให้คนอื่นเขาทำเป็นตัวอย่างก่อน แล้วทำการเมมโมรี่ไว้ อิอิ เท่านั้นเอง ง่ายปะ!!!!!!! ^___^
ราเมนชามนี้ถ้าไม่เอาถั่วงอกลวกก็ประมาณ 700 กว่าเยนค่ะ เพิ่มถั่วงอกเข้าไปก็ 900 กว่าเยน รสชาดอร่อยเหมือนเดิม ราเมนที่นี่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย เรากินราเมนแทบทุกมื้อเลยอะ ... กลับเมืองไทยมีหวังอ้วนแน่ๆเร๊ยยยยยย
ตู้หยอดเหรียญสั่งราเมนหน้าแบบนี้ค่ะ เหมือนตู้ขายบัตร BTS บ้านเราค่ะ อิอิ รับทุกแบงค์ ทุกเหรียญ ไม่ต้องห่วงว่าตู้จะทอนเงินผิด ต่อให้สั่งเยอะแค่ไหนเครื่องก็คำนวณได้ถูกเป๊ะ หลังจากหยอดเหรียญแล้วจะมีใบเสร็จออกมาจากตู้ เราก็นำใบเสร็จนี้ไปให้กับพนักงานค่ะ หลังจากนั้นรอรับราเมนที่เราสั่งได้เลย 
ย่านนี้คนเยอะค่ะ เราเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งพร้อมยกกล้องขึ้นมาถ่าย จะเห็นว่าฝูงชนกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาเราแล้วค่ะ 
หาซื้อของฝากให้คุณนายโสมเจอแล้ว ร้าน DHC ที่นี่ราคาถูกมากๆ ขอตัวไปซื้อของก่อนนะคะ เดี๋ยวไปต่อกันที่ย่าน shinjuku จ้า 
ออกจากย่าน shibuya มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ shibuya นั่งสาย yamanote ไปยัง shinjuku ผ่านร้านขนม tokyo banana เลยแวะติดไม้ติดมือมาันั่งกิน 4 ชิ้น นั่ง yamanote ไป shinjuku กันเลยค่ะ มีอะไรดีๆรอเราอยู่ที่นั่น


ปล. เพิ่งจะกลับมาจากเชียงรายจ้า จะทยอยรีวิวทริปญี่ปุ่นให้ครบนะคะ อิอิ โปรดติดตามชม