วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ Yokoso Japan

ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะกันแล้วค่ะ เครื่องบินจอดนิ่งอยู่บนลานบิน งวงช้างค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ๆ เสียงดังกึกทำให้เรารู้ว่าประตูของเครื่องบินได้เปิดออก คล้ายๆกับว่าปล่อยผู้โดยสารมุ่งหน้าเดินทางเข้าสู่อ้อมกอดของเมืองปลาดิบอย่างเป็นทางการ เราสองคนเดินตามผู้โดยสารคนอื่นเข้าเมือง เหตุด้วยการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นกิริยามารยาทจึงค่อนข้างเรียบร้อยมากๆ ไม่กระโดกกระเดกเฉกเช่นการเดินทางภายในประเทศ เดินตามป้ายมาเรื่อยๆค่ะ 
เดินตามท่านผู้นำที่อยู่ด้านหน้าแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ ก่อนเข้าไปในตัวตึกอย่างเป็นทางการจะเจอป้ายต้อนรับอยู่ด้านหน้าตามธรรเนียมประเทศ นักท่องเที่ยวทุกคนต่างรุมเจ้าป้ายนี่แหละค่ะ บ้างยืนยิ้ม บ้างยืนชูสองนิ้ว บ้างก็กอดคอกะเพื่อนๆ เราเองก็อยากถ่ายบ้าง 
ตะโกนเรียกโอ๋ให้มาถ่ายกะป้าย  ยุ่งๆๆๆ มาถ่ายรูปกะป้ายป่าว เดี๋ยวเค้าถ่ายให้ ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เรายืนหันรีหันขวาง หายไปไหนวะเนี่ย ... เรากดชัตเตอร์ไปหนึ่งรูป (ก็รูปที่เห็นกันอยู่นี่แหละค่ะ) หลังจากนั้นก็ถอยฉากออกมามองหาโอ๋  นั่นไงเจอละ... คนบางคนคงปวดฉี่ขนาดหนักเดินไปตามป้ายห้องน้ำซึ่งอยู่ถัดจากป้ายเพียงไม่กี่เมตร เราตะโกนไล่หลังไป ยุ่งไปไหนอะ ปวดฉี่หรือปวดอึ สิ้นเสียง ก็หัวเราะเยาะด้วยความสะใจ สะใจแค่ไหนไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าให้คนอื่นหันไปมองโอ๋ได้เลยล่ะ แต่ทางนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะโกนกลับมาด้วยความเดือดเช่นกัปวดฉี่จะไปเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปเสร็จแล้วตามเข้ามาด้วยล่ะ  เอาล่ะค่ะงานงอก ห้องน้ำ ห้องน้ำ ห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน บ้วนปาก อร๊ายยยยยย....คิดแล้วไม่อยากจะเดินตามเข้าไปเลยให้ตายเหอะ  ปิดหน้ากล้องเดินคอตกตามโอ๋ไปในห้องน้ำ  ... จริงๆการที่เราเป็นแฟนกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ เข้าห้องน้ำด้วยกันตามสะดวก อิอิ

โอ๋ เสร็จยังเนี่ย ไหนบอกว่ามาฉี่ไง ทำไมฉี่นานแบบนี้ คนอื่นเค้าเดินไปเช็คเอกสารที่ ตม กันหมดแล้วนะ เราเริ่มบ่นเนื่องจากยืนอยู่หน้ากระจกรอโอ๋มาเกือบ 10 นาทีแล้ว
ยังไม่เสร็จเลย รอก่อนได้มั๊ยไอ่หมู เสียงสุดท้ายของโอ๋ลากยาวทำให้เราต้องเงียบเสียงลงทันใด
แอ๊ดดดดดด... เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกแล้ว โอ๋เดินออกมาพร้อมกับหยิบกระเป๋าใบเล็กที่นำติดตัววางบนเคาน์เตอร์ห้องน้ำ พร้อมกับหยิบแปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากออกมาให้ขำระล้างความสกปรกยามเช้า
เฮ๊ย... เอาอีกแล้วเหรอ
อะไรกัน กินข้าวแล้วยังไม่ได้แปรงฟันบ้วนปากเลยนะ อย่าพูดมาก จะแปรงหรือไม่แปรงโอ๋เริ่มทำน้ำเสียงแกมบังคับเล็กน้อย  เราเงยหน้ามองโอ๋พร้อมกับทำปากขมุบขมิบ แต่ก็หยิบแปรงฟันในมือโอ๋มาแหละค่ะ ไม่ได้กลัวนะคะ แต่ไม่อยากให้บ่นเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ
........................................................................................................
แปรงฟัน บ้วนปากเป็นที่เรียบร้อย โผล่หน้าออกมาดูด้านหน้าห้องน้ำ ตายแร้วววว  คนหายไปไหนเนี่ย ไม่มีใครเหลืออยู่ละแวกนี้เลย เราชะโงกหน้ากลับเข้าไปในห้องน้ำ มองหน้าโอ๋ด้วยอาการเคืองเล็กน้อย
นี่ ... ชักช้ายืดยาดจนคนอื่นเค้าไปกันหมดแล้วเนี่ย เรียบเลย มัวแต่ปัดขนตาอยู่ได้ โอ๋หันมามองเล็กน้อยแต่ก้ไม่ได้รู้สึกกับคำพูดที่ออกไปเลยค่ะ ยังคงบรรจงปัดขนตาเพิ่มอีกนิด  เราลากกระเป๋าออกมายืนหน้าห้องน้ำ พร้อมกับคิดต่างๆนาๆเกี่ยวกับเรื่องราวข้างหน้าที่จะเกิดขึ้
โอเคเสร็จแล้ว โอ๋ออกมายืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า เราก้มมองโอ๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วหัวเราะออกมา สวยได้แค่นี้อะนะ แต่งอยู่ตั้งนาน โอ๋ฟาดฝ่ามือลงบนไหล่ดังป๊าบ ไอ่หมู เดี๋ยวจะโดนนะ  พูดเรื่องจริงก็ดันโกรธอีกแฮะคนเรา...

เราสองคนลากกระเป๋าเดินเข้ามาในตัวอาคารแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โอะฮะโยะโกซัยมัสสึ แปลว่าภาษาลาวว่า สบายดี... อะงงล่ะสิงง ก็คำทักทายแบบนี้เราคนไทยค่อนข้างคุ้นกันอยู่แล้วนี่คะ เราเลยแปลเป็นภาษาลาวให้ซะเลย...  เดินผ่านเจ้าหน้าที่มาอีกหน่อยก็จะถึงขั้นตอนของการตรวจคนเข้าเมืองค่ะ พาสปอร์ตกับเอกสารเข้าเมืองที่กรอกไว้เมือตะกี๋เตรียมไว้เลยค่

ระหว่างที่เรายืนรอการตรวจเอกสารอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ ตม ของญี่ปุ่นจะคอยเดินถามว่ามีเอกสารเข้าเมืองหรือยัง กรอกหรือยัง  ถ้ายังไม่มีเขาจะยื่นเอกสารให้กรอกตรงนั้นล่ะ มีนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปหลายคนยืนกรอกเอกสารเข้ามืองอย่างขมักเขม้น โชคดีเราหาข้อมูลมาก่อนเลยไม่ต้องมายืนกรอกตรงนี้ ... จริงๆแล้วบนเครื่องเขาก็เดินแจกเอกสารเข้าเมืองนะคะ หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ พนักงานจะเดินถือเอกสารเข้าเมืองแจกหากใครที่ยังไม่มีก็สามารถขอรับได้ตอนนี้เลย และกว่าเครื่องจะถึงสนามบินเราก็สามารถกรอกเอกสารได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว... สบาย สบาย ผ่าน ตม ตรวจคนเข้าเมืองก็มาเจอศุลกากรค่ะ ยื่นเอกสารที่กรอกไว้ให้ศุลกากรได้เลย ด้วยเหตุที่กระเป๋าใบที่เราหิ้วมามีแต่ของกินที่เอามาฝากแม่ เลยโดนถามนิดหน่อยแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ หลุดออกจากขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เราทั้งสองลากกระเป๋าออกมาด้านนอกมองหาป้าอ๊อดเพื่อนของแม่จ้อง ซึ่งแม่วานให้ป้าอ๊อดมารับที่สนามบิน เรายืนยันกะแม่ว่าเราสามารถนั่งรถไฟไปหาแม่ที่คามาตะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ก็ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวสุดสวย (คุณโอ๋) นั่นแหละค่ะ แม่ไม่ยอมท่าเดียวยังไงๆก็ต้องให้ป้าอ๊อดมารอรับให้ได้ ทำให้ก่อนเดินทาง 1 วันแม่นัดให้เรามาเจอกะป้าอ๊อดผ่านสไกด์ นัดมาดูหน้าตากันยังกะนัดมาดูตัวยังไงยังงั้นเลยค่ะ ยังไม่พอนะคะ คืนวันเดินทางประมาณทุ่มครึ่ง แม่ก็ยังสไกด์มาหาเพื่อนัดสถานที่เจอกันอีกครั้ง โอยยย สุดยอดคุณแม่ห่วงลูกสาวเลยค่ะนั่น
...........................................................................................................................
เราหลุดออกมาข้างนอกแล้วค่ะ มองหาป้าอ๊อดที่ยืนรออยู่ด้านหน้า มีคุณป้าคนหนึ่งแต่งตัวจ๊าบมากๆ โบกไม้โบกมือให้เราอยู่ด้านหน้า อ้อ...ป้าอ๊อดนั่นเอง อิอิ...เราตรงรี่เ้ข้าไปหาป้าอ๊อดและยกมือไหว้ตามธรรมเนียมคนไทย ป้าอ๊อดรับไหว้พร้อมกับพาเราเดินออกมาจากจุดนัดพบ 
"เป็นไงกันบ้างลูก เดินทางมาเหนื่อยมั๊ยเนี่ย" ป้าอ๊อดถามด้วยความห่วงใย 
"นิดหน่อยค่ะป้าอ๊อด" โอ๋ตอบป้าอ๊อด
"แม่เค้าก็เป็นห่วง กลัวป้าอ๊อดจะมารับลูกไม่ทัน และ บลา บลาๆๆๆๆๆๆ.....อีกมากมายหลายเรื่อง...
เดินไปคุยกันไปค่ะ ป้าอ๊อดพาเรามานั่งพักเหนื่อยที่ร้านกาแฟสตาร์บั๊คโอ๋สั่งกาแฟร้อนมากิน ส่วนเราเองไม่ซดกาแฟอยู่แล้วค่ะเลยสั่งโกโก้เย็นมาทาน แต่ปรากฎว่าที่นี่ไม่ีมีโกโก้เย็นค่ะ แปร่ววววว ... โผล่มาถึงแดนปลาดิบก็หน้าแหกซะแล้ว แต่ไม่เป็นไร สั่งโกโก้ร้อนมาแทนก็ได้ เฮ่อ.... 
รับกาแฟและโกโก้ร้อนจากพนักงานเสร็จก็มานั่งพัก นั่งคุยกันที่โต๊ะค่ะ สองคนป้าอ๊อดกะโอ๋ ก็คุยกันสรรพเพเหระ ส่วนใหญ่จะเป็นการนินทาแม่จ้องซะมากกว่า 5555 เราเองก็นั่งฟังไปขำไป แต่ไม่ออกความเห็นค่ะเดี๋ยวงานจะเข้าซะเปล่าๆ เลยบอกโอ๋ว่า ขอตัวเดินสำรวจทั่วบริเวณก่อนละกัน 

"ยุ่ง เค้าไปเดินถ่ายรูปเล่นได้ป่าวอะ" ทำเสียงอ่อยสุดชีวิต
"อย่าไปไกลนะ" โอ๋บอกพร้อมกับทำสายตาดุดันเล็กน้อย
"โอเค เดินไปแถวนี้แหละเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" เราพูดพลางยืนขึ้น
ป้าอ๊อดถาม "ชอบถ่ายรูปเหรอลูก"
"ใช่ค่ะ คนนั้นเค้าชอบถ่ายรูปค่ะป้าอ๊อด" โอ๋ตอบ
เราหันหน้ามายิ้มให้ป้าอ๊อดพร้อมกับผงกหัวเล็กน้อยเป็นการแสดงออก พร้อมกับถือเจ้ากล้องจิ๋ว NEX 5n เดินออกไปจากในร้าน ยืนหน้าร้านทำท่าเก้ๆกังไม่รู้จะไปทางไหน เหลือบไปเห็นเจ้าตู้นี้อยู่ทางด้านซ้ายมือ เลยเดินไปทักทายมันหน่อย ตู้หน้าตาแปลกๆนี้คือตู้จำหน่ายตั๋วค่ะ หน้าตาไม่เหมือนตู้ BTS บ้านเราซักเท่าไหร่ ด้านบนที่เห็นเป็นก็จะเป็นสายรถไฟฟ้าค่ะ ส่วนจอตารางก็จะเป็นเวลาการเดินทางของรถแต่ละเที่ยว ส่วนวิธีการใช้เครื่องหยอดตั๋วก็มีกระทู้รีวิวในช่วงแรกแจ้งไว้หมดแล้วนะคะ ส่วนตัวแ่ล้วยังไม่มีโอกาสได้หยอดเลย ไปญี่ปุ่นอีกครั้งจะหยอดเองให้ได้ทีเดียวเชียว 
เดินมาอีกนิดก็จะเป็นเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว JR ค่ะ 
นี่ก็เป็นรถไฟอีกเจ้าหนึ่งค่ะ เป็นคู่แข่งของ JR เค้าล่ะ 
ส่วนตรงนี้ก็เป็น service center ของ JR เค้าล่ะ พาสต่างๆสามารถซื้อได้ที่นี่เลยนะคะ
จุดบริการของ JR มีเพียบเลยค่ะ น่าจะเป็นเจ้าใหญ่ของที่นี่กันเลยทีเดียว
เดินสำรวจรอบเล็กๆค่ะ เกรงว่าสองสาวที่อยู่ด้านในร้านจะคอยนานเกินเหตุึ เดินเข้าไปในร้านสองสาวเค้าก็ยังเมาท์แม่ไม่เลิก 5555... คนมันฮอตเรื่องก็มักจะเยอะเป็นธรรมดาล่ะค่ะ 
"เดี๋ยวเราก็ออกไปนั่งรถไฟกันได้แล้วลูก จะได้ถึงบ้านเร็วๆ" ป้าอ๊อดบอก พร้อมกับลุกขึ้นยืน
"โอเคค่ะ ว่าแต่เราต้องไปซื้อ พาส ก่อนมั๊ยคะป้าอ๊อด" เราถามป้าอ๊อด
"ไม่ต้องซื้อแล้วลูก ฮีโร่ซังเค้าเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วทั้งสองคน" 
ว้าวววว... ป้าอ๊อดบอกว่าฮีโร่แอบซื้อพาสโม่ไว้ให้เราคนละใบ และหย่อนเงินลงไปให้ 10000 เยน ตีเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ อืม....4000 บาทค่ะ  ป้าอ๊อดยื่นพาสโม่ให้ เราัทั้งสองคนยกมือไหว้และัรับพาสโม่มาติดตัวคนละใบ 
หน้าตาพาสโม่ค่ะ บัตรใบนี้สามารถใช้เดินทางได้ทั่วโตเกียวเลยค่ะ ใช้ได้กับรถไฟลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน รถเมล์ ตู้ขายน้ำ และสามารถซื้อของในห้าง รวมถึงร้านค้าย่อยๆเช่น family mart หรืออื่นที่ติดป้ายพาสโม่ไว้ด้วย มองหาสัญลักษณ์แล้วแปะจ่ายเงินได้เลยค่ะ ....บัตรพาสโม่หรือบัตรเบ่งที่มีใช้ในประเทศญี่ปุึ่นจะมีอยู่ 2 เจ้าคือ suica และ passmo ซึ่งลักษณะการใช้ก็ใ้ช้เหมือนกันค่ะไม่แตกต่างเลย ซึ่งเจ้าบัตรเหล่านี้เวลาซื้อมาก็จะมีค่ามัดจำบัตรด้วยนะคะ ค่ามัดจำก็หักจากเงินที่เราเติมค่ะ ถ้าต้องการคืนบัตรเงินมัดจำเราก็ได้คืน คิดง่ายแบบนี้นะคะ ^_^
เดินแปะบัตรผ่านช่องทางเข้ามาด้านใน มารอรถไฟมุ่งหน้าไปคามาตะค่ะ งานนี้ป้าอ๊อดถามว่า อยากนั่งชมวิวหรือป่าว เราตอบไปว่าอยากม๊ากกกกกก ป้าอ๊อดเลยจัดให้นั่งรถสาย express มุ่งหน้าเข้าโตเกียว ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบสองชั่วโมงค่ะ งานนี้ได้ดูวิวสมใจอยากละตรู ><"  จากป้ายไฟที่มีอยู่จะเห็นว่าเราจะใช้บริการรถไฟสาย haneda airport ซึ่งจะเดินทางมาถึงในเวลา 10.29 ในขณะที่ถ่ายภาพอยู่นี้เวลา 10.00น. ค่ะ รถไฟของทีนี่ตรงเวลามากๆค่ะ รับรองว่า 10.29น. เราจะได้นั่งรถไฟญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิตแน่นอน 
เราสองคนนั่งคุยกะป้าอ๊อดไปเรื่อยๆถึงชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยว และอีกอื่นๆมากมาย การสนทนาของพวกเราสิ้นสุดเมื่อมีแสงไฟลอดออกมาจากอุโมงค์ ไฟค่อยๆัชัดเจนขึ้นและในที่สุดร่างของเจ้ารถไฟก็เริ่มเด่นชัด เรามองรถไฟด้วยใจจดจ่อ เจ้าขบวนนี้จะพาเราเข้าไปถึงสถานีิ shinagawa ก่อนค่ะ แล้วค่อยต่อรถไฟไปคามาตะกันอีกที สถานีที่เราอยู่นี้เป็นต้นทางค่ะ ดังนั้นไม่ต้องแย่งที่นั่งกับใครเลย สบาย - สบาย  เอาล่ะค่ะ เมื่อรถไฟจอดเทียบชานชลาเราก็จะก้าวเท้าเข้าไปเหยียบเจ้ารถไฟขบวนนี้กันแล้ว YOKOSO JAPAN ค่ะ
ในตอนหน้าเราสองคนจะนั่งรถไฟเข้าเมืองโตเกียวกันแล้วนะคะ โดยการนำของป้าอ๊อด โปรดติดตามจ๊ะ ^_^ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น