วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ เดินเที่ยวภายในวัด

ค่ะ... หลังจากที่เดินมากันจนเหนื่อย งานนี้ยังไม่ได้หยุดกันง่่ายๆนะคะ เราเดินกันมาเรื่อยๆจนใกล้จะถึงวัดเต็มทีแล้ว  ตั้งแต่เดินมาเราจะเห็นว่ามีป้ายแบบนี้อยู่เรียงรายเต็มไปหมด เราเลยถามทางฮีโร่ซังว่าป้ายที่เห็นคืออะไร ก็ได้ความประมาณว่า ป้ายที่เห็นนี้คือรายนามผู้บริจาคเงินให้ประมาณนี้ค่ะ 
ผู้คนที่เดินผ่านป้ายก็มักจะให้ความสนใจไม่ว่าจะเป็นชาวต่างประเทศหรือชาวญี่ปุ่นเอง เอาล่ะค่ะ อีกไม่ไกลเราจะถึงวัดกันแล้ว 
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงวัดกันแล้วค่ะ โอ๋ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกนิดหน่อย หลังจากนั้นแม่กับฮีโร่ซังขอตัวไม่เข้าไปในวัด โดยจะปล่อยให้เราสองคนเดินเที่ยวกันตามใจชอบ

"เดี๋ยวแม่กับฮีโร่จะรออยู่ข้างนอกนะ" แม่บอกเราสองคนให้รู้ตัว
"อ้าว ทำไมอะคะแม่" เราถาม
"ฮีโร่เค้าไม่เข้าวัดแบบนี้" แม่ตอบ
เอ... ไม่แน่ใจว่านับถือคนละนิกายหรือป่าว ถึงได้่ไม่ยอมเข้าไปในวัด หรือยังไงกันแน่นะ
"โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวรุ่งกะโอ๋ขออนุญาตเข้าไปข้างในก่อนละกันนะคะ" เรายิ้ม
"เออ อย่าเถลไถลให้มันนานนักล่ะ" แม่เตือน
"จ้าแม่ หนูจะไม่เถลไถลไปไหนไกล" โอ๋ยียวนกวนประสาทแม่ไม่เลิก
ที่ทางเข้าของวัดจะมีศาลเจ้าตั้งอยู่ทางด้านขวามือ เราสองคนพนมมือไหว้ก่อนเดินทางเข้าไปด้านใน
ผ่านประตูวัดเข้ามาก็มาเจอที่ชำระล้างความสะอาดค่ะ ลักษณะคล้ายกับที่ชำระล้างที่วัดอาซาคุสะเป๊ะ งานนี้เราไม่พลาดดื่มน้ำลงไปอีกแล้ว 5555++  ตักน้ำขึ้นมาล้างหน้า ล้างมือ แล้วเดินชมสิ่งปลูกสร้าอื่นๆภายในวัดกันต่อไป
"นี่ที่รัก อย่าลืมตัวเผลอกินน้ำเข้าไปอีกล่ะ" โอ๋พูดพร้อมกับหัวเราะร่วน
"เค้ารู้แล้ว แหมๆๆๆ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ" เรามองหน้าโอ๋ด้วยสีหน้ายียวนบ้าง
"ขอให้จริง อย่าเผลอกลืนละกัน" โอ๋ยื่นกระบวยตักน้ำมาให้

ด้านขวามือของเราตอนนี้จะมีเทพหน้านก หรืออสูรกายหน้านกก็ไม่ทราบได้ค่ะ จำขนมหน้านกที่เรากินตอนอยู่ด้านล่างกันได้มั๊ยคะ น่าจะมาจากอสูรกายหน้านกนี่แหละค่ะ
ในส่วนนี้น่าจะเป็นการผูกคำขอต่างๆของคนที่มาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ค่ะ
"ยุ่ง มาถ่ายรูปตรงนี้เร็ว แสงกำลังดีเลย" เราส่งเสียงเรียกโอ๋ให้เข้ามาถ่ายรูป โอ๋กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาโดยไม่รอรี
"มาแล้วจ้า" โอ๋ยิ้มหวานให้
"แหมๆๆ ทีเรื่องถ่ายรูปนี่ไม่มีชักช้าเลยนะยุ่งนะ" เราเริ่มกัดบ้าง
"ไม่ได้หรอก นานๆที่รักจะเรียกให้เค้าถ่ายรูป ปกติตัวเองน่ะ ชอบถ่ายรูปวิวนี่ เขอะ" แน่ะ ยังมีต่อท้ายค่ะ
"ตกลงจะถ่ายมั๊ย ถ้าไม่ถ่ายรูปจะได้ไปถ่ายอย่างอื่่น"
"ถ่ายสิ นะๆๆ ถ่ายให้เ้ค้านะ" ส่งเสียงแบบนี้อีกแล้วค่ะ ไอ้เราก็ใจอ่อนอีกตามเคย 5555+
โซนตรงกลางวันจะมีร้านขายเครื่องลาง ซึ่งเครื่องลางของญี่ปุ่นมีหลากหลายแบบเลยค่ะ ออกแบบมาได้เก๋มากๆ ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่นะคะ แต่ก็น่ารักสมราคาทีเดียว
เราเดินอ้อมไปโซนส่วนหลังของวัด แล้วเดินมาทางด้านหน้า วันนี้ผู้คนมาสักการะกันค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ โอ๋สะกิดให้เราหยุดท่องเที่ยวภายในวัดและลงไปหาแม่ได้แล้ว แต่เรายืนยันว่ายังไม่ลง ถ้าโอ๋อยากลงก็ใ้ห้ลงไปก่อน
"ที่รัก ลงไปหาแม่กันมั๊ย เค้าว่าเราขึ้นมานานแล้วนะ" โอ๋ทำเสียงหงอยๆ
"โห ยุ่งอะ เค้ายังเดินไม่ทั่วเลยนะ" เราทำสีหน้าเง้างอดขึ้นมาบ้าง
"งั้นตัวเองถ่ายรูปไปก่อนละกัน เ้ค้าจะลงไปหาแม่แล้ว ไม่อยากให้แม่รอนานอะ" โอ๋บอกพลางเดินจากไป

นี่คือเหตุผลหนึ่งทีี่เราไปเที่ยวแล้วไม่อยากไปกะทัวร์ค่ะ เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นคนชอบละเลียดอยู่กับการซึมซับบรรยากาศและการถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
เดินลึกเข้าไปอีกนิดค่ะ จะมีป้ายแขวนไว้แบบนี้ เดาว่าน่าจะเป็นการขอพรของคนที่นี่เช่นกันนะคะ
วันนี้อากาศไม่อ้าวมากค่ะ แต่่ฟ้าก็ไม่เปิดอย่างที่ใจต้องการ วัดที่นี่สวยมากๆค่ะ สร้างจากไม้แทบทั้งหมด รู้สึกประทับใจมากมายจริงๆค่ะ
แม่ลูกคู่นี้มาแอบทำบุญอยู่ตรงนี้ค่ะ ได้จังหวะพอดีเลย จึงถ่ายรูปเก็บไ้ว้ซะ 1 ใบ

ด้านในของวัดมีทางเดินลงมาจากด้านบนค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วในส่วนที่เราอยู่ตรงนี้น่าจะเป็นบางส่วนของวัดมากกว่าเพราะมีคนเดินขึ้นบัดไดอีกทางหนึ่งและเดินลงมายังทางนี้ อยากขึ้นไปบ้างค่ะ แต่ข้อเท้าไม่เอื้ออำนวยจริงๆ เพิ่งผ่านการผ่าตัดมาไม่กี่เดือน ก็ออกมาซ่าถึงต่างประเทศแล้วเรา 5555++
เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวขึ้นไปเดินดูด้านบนกันบ้างนะคะ ขอไหว้พระกวักควันเป็นสิริมงคลแป๊บนึงค่ะ

ด้านบนของวัดมีลักษณะเป็นแบบนี้ค่ะ ประตูยังคงไว้ในลักษณะเดิมๆ ได้ความรู้สึกของความเป็นญี่ปุ่นมากๆ  ชอบคนญี่ปุ่นหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งเรื่องของความมีวินัย เรื่องของความสะอาด และที่สำคัญเขารักษาความเป็นตัวตนให้คงอยู่กับความก้าวหน้าของโลกได้อย่างแนบเนียนเลย

เดินลงมาด้านล่างของตัวอาคาร เจอแม่ ฮีโร่ซัง แล้วก็โอ๋ยืนรออยู่ด้านล่าง แปร่วววววววว รู้สึกผิดขึ้นมาทันใด

"ยุ่ง ทำไมเอาแม่ขึ้นมาตามด้วยอะ มาตามเองดีๆก็ได้" เราบ่นอุบ
"ก็แม่เค้าบอกว่าจะขึ้นมาเองอะ"
"โหย ทำแบบนี้รู้สึกผิดนะเนี่ย สงสัยแม่จะรอนานจนรอไม่ไหวเลยขึ้นมาตามซะ" สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือก
"ก็ที่รักมัวแต่ถ่ายรูปอะ ไม่สนใจเค้าด้วย"
"เอ้า... ก็เราคุยกันแล้วนี่นา ตัวเองก็อนุญาตให้เค้าถ่ายรูปแล้วด้วย แล้วมาพูดแบบนี้ได้ยังไงอะ" เราเริ่มงง
"ก็ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าที่รักนั่นแหละที่ผิด" โอ๋ทำหน้าบึ้ง
เอ๋า... กลายเป็นว่างานนี้เราผิดซะแล้วสิคะ
บันไดที่เห็นอยู่เบื้องหน้านี้คือบันไดที่ขึ้นไปยังตัววัดด้านบนค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปด้วยสองสาเหตุคือ 1. มาจากข้อเท้าของตัวเองที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ และ 2. เกรงใจแม่กะฮีโร่ซังค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะไปนั่งเรือชมวิวกันต่อค่ะ

"เอ้า กลับได้แล้วเรา" แม่ส่งเสียงเืตือนสติ "เดี๋ยวเจ้าฮีโร่เค้าจะพาไปนั่งเรือต่อ"
"จริงเหรอคะแม่ แล้วไปนั่งที่ไหนอะคะ" เราถามด้วยอาการลิงโลด
"นั่งเรือชมวิวแล้วไปขึ้นที่ท่าอาซาคุสะนู่นเลย" แม่ตอบคำถาม
เราหันหน้ามามองโอ๋แล้วยิ้มพร้อมกัน
"งั้นโอเคเลยแม่ เดี๋ยวเราไปนั่งเืรือกันต่อได้เลย" โอ๋ตอบ
ออกจากตัววัดมาได้ไม่ไกล ดูลูกสาวแม่จ้องเองละกันค่ะ ว่าทะเล้นขนาดไหน  สาเหตุที่ทำหน้าแบบนี้ก็เพราะถูกแม่บ่นนั่นแหละค่ะ  5555++

ในรีวิวหน้าเราจะไปพบกันที่่ท่่าเรือนะคะ ได้เวลานั่งชมวิวของเมืองโตเกียวกันแล้วจ้า 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น