วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ โซบะเจ้าเก่า...ทาคาโอะซัง

รีวิวในฉบับก่อนเรานั่งรถไฟต่อมายังทาคาโอะกันแล้วนะคะ ตอนนี้เรากำลังจะเข้าไปใกล้เจ้าภูเขาทาคาโอะเต็มที่แล้วค่ะ ซึ่งรีวิวนี้จะพาไปกินโซบะอร่อยๆของที่นี่ ร้านโซบะแห่งนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้วจ้า

นั่งรถไฟชมทิวทัศน์สองข้างทางของที่นี่แล้วมันชุ่มหัวใจดีจริงๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนาและบ้านเรือนของคนญี่ปุ่น บ้านเรือนที่นี่ไม่แออัดค่ะ ตัวบ้านออกแนวสี่เหลี่ยมจตุรัส เท่าที่เห็นไม่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านสองชั้นทั้งนั้นเลย อีกไม่กี่อึดใจรถไฟจะจอดเทียบชานชลาแล้วนะคะ เดี๋ยวเราเตรียมตัวลงไปด้านล่างกันได้แ้ล้วจ้า

"ยุ่ง...ถึงแล้ว" เราสะกิดเรียกโอ๋ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โอ๋หันหน้ามามองเราพร้อมกับส่งยิ้มให้แล้วเตรียมตัวลงไปยังด้านล่างด้วยกัน
เดินลงมายังเบื้องล่างของสถานีรถไฟก็จะเจอกับร้านขายของเยอะแยะค่ะ มีจุดเติมเงินในบัตร suica และ passmo ด้วย ใครที่บัตรเงินใกล้จะหมดเต็มทีก็สามารถเติมเงินได้หายห่วง เดินออกมาจาตัวอาคารเพียงเล็กน้อยก็มีร้านขายเกาลัดญี่ปุ่น ถุงละ 3000 เยน คูนเป็นเิงินไทยในขณะนั้นก็ 1230 บาทค่ะ (โหดน่าดูเลยเชียว) 

"ยุ่ง... มีเกาลัดขายด้วยอะ" เราชี้โบ้ชี้เบ้ให้โอ๋เหลือบมาดูเกาลัดที่วางขายอยู่เบื้องหน้า
"หอมจังเลย น่ากินด้วย แต่ราคาแบบว่าซื้อไม่ลง" โอ๋พูดด้วยเสียงอ่อยๆ เนื่องจากราคามันแพงจริงๆ แม่หันมาบอกเราสองคน "เดี๋ยวขากลับค่อยซื้อ" 
"ตกลงเดี๋ยวแม่จะซื้อให้หนูกินเหรอ" โอ๋ถามกลับ
"อ้าว... พามาเที่ยวแบบนี้ก็ต้องซื้อให้อยู่แ้ล้วสิ ถามได้" แม่ตอบโอ๋ทันควัน
ตกลงเราจะได้กินเกาลัดกันแล้วค่ะ ^___^ 
 ระยะทางจากสถานีรถไฟด้านหน้าเข้าไปยังร้านโซบะมีระยะทางประมาณ 300 เมตรเห็นจะได้ แม่กะฮีโร่ซังเดินนำหน้าดุ่มๆ ส่วนเราสองคนก็ตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางกันสุดๆ อากาศดีสุดๆเลยค่ะ เสียดายใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสี ไม่งั้นคงไ้ด้เก็บภาพสวยๆมาฝากกันแล้ว 
สองข้างทางเดินไปร้านโซบะเต็มไปด้วยร้านขายของค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเซมเบ้ คล้ายขนมปังกรอบบ้านเราแต่แข็งกว่า หรือเป็นร้านไอติม ร้านขนมหลายหลายชนิด ซึ่งร้านค้าแต่ละร้านก็จะดัดแปลงมาจากหน้าบ้านของชาวบ้านที่นี่เปิดขายสินค้าตามที่ตัวเองถนัด อย่างร้านนี้เค้าขายน้ำแข็งใสค่ะ หน้าตาน่ากินมากๆ เราสองคนยืนชะโงกดูด้านในของร้าน แต่ยังไม่ทันจะใช้สายตาสำรวจเสียงแม่ก็ดังมาแต่ไกลให้เราสองคนรีบเดินตามไป 

 อากาศวันนี้น่าจะประมาณ 17-18 องศาได้ค่ะ อากาศดีๆทำให้เราสองคนไม่รู้สึกเหนื่อยเลย และแล้วเราก็เดินทางมาจนถึงร้านโซบะที่ขึ้นชื่อของที่นี่กันแล้วค่ะ ด้านหลังของโอ๋จะเป็นร้านขายของฝากและสถานีรถไฟที่จะขึ้นไปด้านบนของยอดเขา ส่วนด้านซ้ายมือที่ผายออกไปเป็นร้านโซบะค่ะ
ร้านโซบะร้านนี้ เท่าที่ได้ข้อมูลจากฮีโร่ซังมาเป็นร้านที่ขายมาตั้งแต่สมัยแกยังเด็กๆเลยค่ะ ดังนั้นเรื่องคุณภาพและความอร่อยคงไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่แน่จริงคงไม่สามารถตั้งตระหง่านอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ตัวร้านน่าจะดัดแปลงมาจากบ้านนี่แหละค่ะ ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของสมัยก่อนไว้ได้ดีทีเดียว เดี๋ยวเ้ข้าไปด้านในกันนะคะ 
เดินเข้ามาด้านใน ฮีโร่ซังกวักมือเรียกให้เราขึ้นไปนั่งด้านบนค่ะ บรรยากาศของร้านเป็นบรรยากาศแบบญี่ปุ่นมากๆ เราขึ้นมาด้านบนพร้อมกับนั่งลงบนเบาะซึ่งทางร้านวางไว้ให้รองนั่งทุกโต๊ะ หลังจากนั้นหันซ้ายหันขวาแบบคนไม่เคยเห็นอะไรทำนองนี้ล่ะค่ะ มองนู่นมองนี่ตลอด ถ้าวันนั้นใครสังเกตุก็จะเห็นเราได้ง่ายมาก เพราะเราไม่หยุดหันกันเลยทีเดียว คือ.. มันเป็นความรู้สึกทึ่งในความเป็นตัวตนของคนญี่ปุ่นจริงๆ แม้ว่าบ้านเมืองเขาจะเจริญในด้านเทคโนโลยี แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวตนของเขาเอง เขายังคงรักษาวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของเขาไว้อย่างดีที่สุด ... พลันก็ให้หวนคิดถึงบ้านเกิดตัวเองค่ะ มันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง 
พนักงานของร้านนำเมนู ชาร้อน และก็ผ้าร้อนมาวางบนโต๊ะเรียบร้อย อย่าคิดว่าพนักงานจะเป็นสาวๆสวยๆเหมือนร้านขายของบ้านเรานะคะ พนักงานร้านนี้ก็เหมือนกับพนักงานในร้านเทมปุระทอดหน้าวัดเซนโชจินั่นแหละค่ะ ค่อนข้างมีอายุอานามแล้ว แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ทำกันในครอบครัว แต่เขาก็ไม่ได้จ้างอีหนูหน้าตาดีมานั่งลุกให้นมหกให้รกตาค่ะ

"จะสั่งอะไรกันก็สั่งเลยนะ" แม่บอกเราสองให้พร้อมกับยื่นเมนูให้
"กินไรดีอะที่รัก โหย...เมนูมีแต่ภาษาญี่ปุ่นหนูจะอ่านออกมั๊ยเีนี่ย" โอ๋เริ่มบ่น
"อ่านไม่ออกก็ดูแต่รูปดิ" เราหันหน้าไปมองโอ๋แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ภาษาอังกฤษเค้ายังไม่มีกำกับให้เลย งานนี้ดูแต่รูปแล้วก็สั่ง" เราหันหน้ากลับมาดูเมนูที่อยู่ในมือ
หน้าตาเมนู ชาร้อน และผ้าร้อนค่ะ ใครมาเที่ยวทาคาโอะซังอย่าลืมแวะร้านนี้นะคะ ขอบอกว่าแจ่มค่ะ
ฮีโร่ซังสั่งโซะบะเปล่าๆมากิน แม่สั่งเซตเทมปุระไม่เอาเส้นโซบะ ส่วนเราเองสั่งโซบะร้อนมาค่ะ อยากซดน้ำซุปว่าจะอร่อยแค่ไหน  โซบะร้อนจานนี้ประกอบด้วยชามโซบะ มีเส้นโซะบะอยู่ในน้ำซุป ขอบอกว่าน้ำซุปหอมมากๆ ด้านล่างลงมาเป็นต้นหอมซอย ส่วนเครื่องเคียงของทอดมีกุ้งและผักค่ะ เทมปุระกอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมันค่ะ เวลากินก็นำเทมปุระวางลงไปในน้ำซุปเลย ส่วนเราไม่ชอบกินของทอดที่ยวบๆหยุ่นๆ เลยสูดเส้นโซบะแล้วกัดของทอดข้างนอก ตามด้วยน้ำซุปคล่องคอ อิอิ อร่อยอย่าบอกใครเชียว 

"โห ของที่รักน่ากินจัง" โอ๋เริ่มก้าวก่ายของกินของเราอีกแล้ว
"แล้วไงอะ เดี๋ยวของตัวเองก็มาแล้วนะ อย่ามายุ่งของเค้า" เราเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของต่อโอ๋
"ขอชิมแค่นี้ก็ไม่ได้" โอ๋ทำหน้างอน
"ไม่ได้" เราตอบพร้อมกับหัวเราะ 
เซตนี้เป็นโซบะเย็นค่ะ หน้าตาเหมือนโซบะร้อนเป๊ะ เพียงแต่โซะบะอันนี้จะแยกเส้นกับน้ำซุปออกจากกันเท่านั้นเอง ส่วนเครื่องเคียงก็มีต้นหอมซอย แล้วก็ชุดเทมปุระ
อาหารเซตของโอ๋วางอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่วายที่โอ๋จะต้องขอแอ๊คถ่ายรูปก่อนกินค่ะ 
"ที่รัก ถ่ายรูปให้เค้าหน่อย" โอ๋หันมายิ้ม
เรายิ้มตอบพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย "จะกินโดยไม่ต้องถ่ายรูปนี่ไม่ได้เลยนะยุ่ง" 
"ก็เค้าอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกนี่นา" หันยิ้ม
กะคนนี้ก็ใจอ่อนตลอดล่ะค่ะ ^__^  "อะ จะถ่ายแ้ล้วนะ 1-2-3" แช๊ะ เสียงชัตเตอร์ดังเป็นการส่งสัญญานว่าภาพได้ถูกบันทึกลงใน card เรียบร้อยแล้ว 
โซบะเจ้านี้อร่อยจริงค่ะ เส้นหนานุ่มลิ้นมากๆ น้ำซุปกลมกล่อมยิ่งซดยิ่งคล่องคอ ไม่เหมือนบ้านเรานะคะ ยิ่งซดยิ่งเค็ม 55555++

อิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ ระหว่างเดินทางไปยังสถานีขายตั๋วโดยสาร รูปนี้จะเห็นว่านักท่องเที่ยวหลายท่านแต่งตัวทะมัดทะแมงมากค่ะ สงสัยเบื้องหน้าจะลำบากข้อเท้าซะแล้วเรา
สถานีรถไฟที่จะออกเดินทางไปยังภูเขาด้านบนค่ะ มีให้เลือกบริการได้สองประเภทคือรถไฟ และ กระเช้า ขาขึ้นไปยังด้านบนเราเลือกนั่งรถไฟขึ้นไปค่ะ ส่วนขาลงขอนั่งกระเช้าชมวิวให้หายเหนื่อย ^__^
วันนี้ฮีโร่ซังบริการเต็มที่เลยค่ะ แกไปยืนซื้อตั๋วให้เราสามคน โดยแกบอกว่าขาไปให้นั่งรถไฟขากลับเราจะนั่งกระเช้าลงมาด้านล่าง จะได้ดูวิวสวยๆกัน
หลังจากรับตั๋วจากฮีโร่ซังมาแล้ว เราเดินขึ้นไปด้านบนอีกเล็กน้อยเพื่อรอรถไฟจากด้านบนลงมารับค่ะ  รถไฟของที่นี่จะมีลักษณะอย่างที่เห็นค่ะ คือทำตัวโบกี้ลาดเอียงไปตามระดับของภูเขา ส่วนด้านในก็ทำเป็นขั้นบันไดค่ะ นักท่องเที่ยวจะได้ไม่ต้องยืนต้านแรงโน้มถ่วงของโลก

เรามาเตรียมตัวนั่งรถไฟขึ้นไปด้านบนกันนะคะ

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ