วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

++ Japan Trip ++ ตามหาแบรนด์เนมมือสองที่ Shinjuku

หายหน้าหายตาจาก blog ไปเดือนกว่า ช่วงนี้งานรุมสุมชีวิตมากมายค่ะ ต้องทำงานหลักให้เสร็จสิ้นก่อนไม่อย่างงั้นมีหวังไส้แห้งแน่ๆ ^___^  รีวิวที่แล้วจำได้ว่าพาเพื่อนไปเดินหาของกินที่ shibuya กันจนอิ่มหนำสำราญ มาในช่วงบ่ายเราสองคนจะพาไปตามหาร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองค่ะ รับรองว่าราคาและสภาพสินค้านั้นโดนใจขาช้อปสุดๆทีเดียว

นั่งเจ้า yamanote จากสถานี shibuya มาสถานี shinjuku ออกจากสถานีมาก็เจอพ่อหนุ่มคนนี้ต้อนรับอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ คนอารั๊ยดูดีไปทุกรูขุมขน จำได้ว่ารู้จักพ่อหนุ่มคนนี้ก็เพราะนังอ้อ  นังอ้อกรี๊ดวง smap สุดๆ ทำเอาเราที่ไม่คุ้นเคยกับนักร้องญี่ปุ่นถึงกับต้องสนใจตามมันเลยทีเดียว 
อย่างที่ได้บอกไปค่ะ ช่วงเย็นนี้เราจะออกตามหาร้านกระเป๋าแบรนด์เนมที่อยู่ที่ย่านแห่งนี้ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นก็มาจากค้นหาของโอ๋นั่นแหละค่ะ คนอารั๊ยชอบกระเป๋ามากมาย หากเอากระเป๋าที่โอ๋มีอยู่ทั้งหมดออกขาย เราคงซื้อ D700 ได้สบายไปเลยค่ะ 

"ยุ่ง ตกลงจำทางไปร้านขายกระเป๋าได้ปะ" เราถามโอ๋เพื่อย้ำความมั่นใจ
"ไม่รู้อะ เค้าบอกแค่ว่าอยู่ในซอยข้างร้าน ABC" โอ๋ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ  เอาละค่ะ งานเข้าแล้ว ไว้ใจอะไรไม่เคยได้เล๊ยคนๆนี้ เฮ้อ...
"อ่าว.. ก็ไหนบอกว่าอ่านมาอย่างดี ค้นข้อมูลมาอย่างดีแล้วไง" เราเริ่มซ้ำ
"ก็เค้าจำไม่ได้นี่นาที่รัก" โอ๋พูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ 

เฮ่อ... กะแล้วค่ะว่าต้องเป็นแบบนี้ ช่วงเวลาที่อยู่เมืองไทย ก็เลยเปิดอ่านเว็บที่โอ๋เข้าไปดูอีกคนนึง เผื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้วจะได้เป็นคนนำทางโอ๋ไปหากระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาด 
เราสองคนเดินข้ามถนนมาเรื่อย ABC MART ที่ว่านี้จะอยู่ตรงข้ามกับ Big Camera ร้านกล้องชื่อดังค่ะ มาย่านนี้หาร้านนี้ง่ายๆค่ะ 
เจอร้าน Big Camera แล้วก็มองหาร้าน ABC MART ได้เลยค่ะ เมื่อเจอร้าน ABC แล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปด้านในได้เลยจ้า 
เดินเข้ามาในซอยประมาณ 50 เมตร จะเจอหน้าร้านแบบนี้ค่ะ ทั้ง 3 ชั้นจะเป็นสถานที่ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองค่ะ มีทั้งกระเป๋า นาฬิกา และอื่นๆ 
สังเกตุรูปนี้ให้ดีจะเห็นเงาตะคุ่มๆยืนรออยู่ด้านหน้าร้าน ก็โอ๋นั่นแหละค่ะ คงใจจดจ่ออยากเข้าไปดูเต็มทีเแล้ว 5555++  เดี๋ยวเข้ามาด้านในด้วยกันเลยค่ะ จะเห็นว่าเจ้ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสองของร้านนี้มันละลานตามากขนาดไหน ^___^ 

"ยุ่ง ไมไม่เข้าไปด้านในล่ะ" เราถาม เพราะเห็นโอ๋ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าร้าน
"ที่รักเค้าไปกะเค้าหน่อยดิ เดี๋ยวคนขายเข้ามาทักแล้วเค้าไม่รู้จะพูดยังไง" นั่นไง สุดท้ายก็เพียงเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเรานี่เอง
"อ้าว.. เค้านึกว่าที่รักคิดถึงเค้าก็เลยยืนรอหน้าร้านซะอีก วู้อะไรวะ ที่แท้ก็เอาเราไปเป็นไม้กันหมา" เราเริ่มทำเสียงเง้างอดใส่โอ๋บ้าง
"ไม่ใช่ซักหน่อย ที่รักของเค้าเก่งที่ซู๊ด"....  โอ๋เนี่ย....นอกจากจะเอาใจเก่งแล้วยังยอเก่งด้วยสิคะ ทำเอาเราปลื้ม เคลิบเคลิ้มอยู่ในวังวนไปชั่วครู่

ออกนอกเรื่องมาเยอะแล้วค่ะ เดี๋ยวเข้าไปดูด้านในกันเลยจ้า 
กระเป๋าเป้าหมายของโอ๋อยู่ชั้นสองค่ะ เราสองคนเดินสำรวจชั้นล่างเสร็จเรียบร้อยก็มุ่งหน้าขึ้นไปดูกันด้านบน ทางเดินขึ้นไปชั้นสองจะเป็นทางเดินเล็กๆนะคะ เวลาเดินขึ้นไปต้องระมัดระวังกันนิดหน่อย เราเองเพิ่งผ่าตัดเอ็นข้อเท้าหมาด การเดินเหินยังไม่ปกติดีเท่าไหร่ เวลาเดินขึ้นลงบันไดก็อาศัยจับมือโอ๋นี่แหละค่ะ ... ต้องขอบคุณโอ๋มากๆ ที่คอยดูแลไม่ห่างเลย 
 สาวกกระเป๋าแบรนด์เนมคงถูกใจร้านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว มันเยอมากๆ ขนาดเราเองเป็นคนไม่ชอบอะไรแบบนี้ยังอดที่จะหยิบจับไม่ได้เลยจริงๆ ขอบอกว่าสภาพกับราคานั้นมันโอเคมากๆ
 และแล้วโอ๋ก็เริ่มเล็งกระเป๋าแล้ว
 เราเองก็เดินดูเรื่อยเปื่อย วันที่เราเดินทางไปญี่ปุ่นค่าเงินเยนอยู่ที่ 41 บาท ต่อ 100 เยน ลองคำนวณดูค่ะว่ากระเป๋านี้ราคาเท่าไหร่ อ้อ..ร้านนี้เป็นร้านปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ เพียงยื่นพาสปอร์ตให้ตอนจ่ายเงินเท่านั้นเองค่ะ
 โอย... บอกได้คำเดียวว่าละลานสุดๆ ใครผ่านมาย่านนี้อย่าลืมแวะ
 กระเป๋าแต่ละใบสภาพดีมากๆ ช่วงเวลาแบบนี้เราให้โอ๋ได้ใช้เวลาในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ค่ะ เราก็แค่ยืนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนจบกลับจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่...ซะงั้น...โอ๋วางกระเป๋าลงอย่างช้า หันมาพูดกับเราด้วยสีหน้าที่ราบเีรียบ
"ที่รัก เค้าไม่ซื้อแล้วล่ะ เสียดายเงิน"
"ห๊ะ อะไรนะ ....พูดอีกทีซิ" เราย้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองว่าโอ๋ เ สี ย ด า ย เ งิ น
"จริงๆ เค้าไม่เอาแล้วดีกว่า ที่บ้านมีตั้งหลายใบ ใช้ยังไม่ครบเลยด้วย" โอ๋พูดพร้อมกับยิ้ม
"เอาจริงเหรอ คิดให้ดีนะ กลับเมืองไทยแล้วไม่มีโอกาสซื้อแล้วนะ" เราย้ำโอ๋อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"จริง... เค้าว่าเราเก็บตังค์ไว้ทำอย่างอื่นกันดีกว่า" โอ๋ยิ้มพร้อมกับจูงมือเราออกไปจากร้าน

แปลกใจมากค่ะที่โอ๋ไม่เสียเงินกับร้านกระเป๋าร้านนี้... แต่..พอกลับถึงเมืองไทยก็เป็นไปตามคาดค่ะ "ที่รัก รู้งี้เค้าซื้อกระเป๋ากลับมาก็ดีเนอะ" ให้มันได้อย่างนี้เซ้....
ออกจากร้านมาเราตรงดิ่งไปยังตู้โทรศัพท์รายงานตัวกับแม่ก่อน เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ตกลงเราจะนั่งเจ้า yamanote ไปลงที่ Shinagawa และต่อสาย Keihin Tohoku ไปยังสถานี Kamata เพื่อเจอแม่ก่อนหลังจากนั้นค่อยกลับบ้านพร้อมกัน
 นั่งรถไฟไม่กี่อึดใจเราสองคนก็พาร่างกายอันเหนื่อยอ่อนมาเจอแม่ที่สถานคามาตะ วันนี้แม่จะพาเรานั่งรถบัสไปซื้อของที่มินิมาร์ทใกล้บ้านค่ะ หลังจากนั้นก็จะเข้าไปกินอาหารเย็นด้วยกันที่บ้าน ก็จะเป็นการปิดการท่องเที่ยวของเราสองคนในวันนี้แล้วละค่ะ
 หมูชุปแป้งทอดที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทใกล้บ้าน เกล็ดขนมปังกรอบอร่อย หมูนุ่ม แป้งไม่เยอะนะคะ แบบว่ากำลังดีเลย ไม่เหมือนบ้านเราเน้นแป้งแต่หมูสับมีนิดเดียวเอง ที่นี่จ่ายเงินไปแล้วรับรองว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอนค่ะ หมูจานนี้ประมาณ 100 กว่าบาท 
 ผักโขมผัดน้ำมันงา 100 กว่าบาทเช่นกัน ผักโขมไม่เหม็นคลุกเคล้าน้ำมันงาและงาขาว หอมน้ำมันงาสุดๆ
 ปลาดิบแพคนี้ ให้เดาค่ะว่าเท่าไหร่ 700 800 900 ผิดคาดค่ะ ทั้งหมดนี้ราคาแค่ 300 กว่าบาทเท่านั้นเอง โอยเป็นอะไรที่ถูกใจเราสองคนสุดๆเลยค่ะ ปลาดิบสด เนื้อแน่น หวาน อร๊ายยย.... ซัดเรียบเลยล่ะ ^___^
 ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อยค่ะ มื้อนี้ทานอาหารที่บ้าน แบบพร้อมหน้าพร้อมตา ...
 แม่จ้อง กะ ฮีโร่ซัง คู่รัก คู่กัด...
 อ้อ... วันก่อนตามหาโค๊กกระป๋องจิ่วไม่เจอ เจอแต่โค๊กยักษ์ วันนี้ตามหาเจอแล้วค่ะ กระป๋องน่ารักมาก ชอบสุดๆ เลยซื้อติดมือเข้าบ้านมาด้วย วันนี้เราสองคนเที่ยวในตัวเมืองโตเกียว ย่าน shibuya และ shinjuku กันจนชุ่มปอด พรุ่งนี้แม่บอกว่าฮีโร่ซังจะพาไปสูดอากาศนอกเมืองค่ะ เราจะไปเที่ยวที่ทาคาโอะซังกัน มาดูว่าวันต่อไปของเราสองคนจะสนุกและมันส์ขนาดไหน อย่าลืมติดตามกันนะจ๊ะ วันนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ทุกคนจ้า 





1 ความคิดเห็น: